ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 13,706 ครั้ง
Advertisement

ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง!

Advertisement

วัยใสฮิตทาแก้ม-ปาก แพ้พิษถึงปากบวมเจ่อ อย. เตือนวัยโจ๋ใช้เจลทินท์ทาในปากและแก้มให้ดูสวยใส เซ็กซี่ หวั่นทำให้เกิดอาการแพ้ปากบวมเสี่ยงเป็นมะเร็งได้ หากมีส่วนผสมจากสีอันตราย ด้านแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังชี้เครื่องสำอางบางชนิดมีส่วนผสมของสารตะกั่ว มีพิษรุนแรง เป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อปาก เผยมีผู้ป่วยแพ้ลิปสติกเข้ารับการรักษากว่า 100 รายต่อปี

เมื่อวันที่ 25 มกราคม นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเกี่ยวกับภาวะความเสี่ยงของการใช้เครื่องสำอางในกลุ่มวัยรุ่นว่า วัยรุ่นไทยเป็นวัยที่สนใจและให้ความสำคัญกับเรื่องความสวยความงามอย่างมาก โดยเฉพาะวัยรุ่นหญิง ส่วนใหญ่จะรู้จักใช้เครื่องสำอางตั้งแต่อายุยังน้อย และมักจะเน้นการแต่งหน้าอิงตามกระแสแฟชั่น เพื่อให้ดูสวยใสมีสุขภาพดีดูเป็นธรรมชาติ โดยเครื่องสำอางที่กำลังฮิตในหมู่วัยรุ่นไทยขณะนี้ก็ คือ เจลสีที่วัยรุ่นเรียกว่าทินท์ (tint) เพื่อให้ปากมีสีอมชมพูระเรื่อ หรือออกโทนส้มอ่อน ดูแล้วจะให้ความรู้สึกว่าเป็นคนมีสุขภาพดี มีเลือดฝาดดี มีความสวยเป็นธรรมชาติ และทาลิปกลอสทับ เพิ่มความมันวาวหรือเพิ่มความเซ็กซี่ จึงมีผู้ผลิตออกมาจำหน่ายหลากหลายยี่ห้อ วางขายตั้งแต่ห้างร้านราคาแพงลงไปถึงตามตลาดนัดราคาถูก

เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า การใช้ทินท์แตกต่างจากลิปสติกทั่วไป ซึ่งมักจะทาที่ริมฝีปาก แต่การใช้ทินท์นั้นน่าเป็นห่วงมาก เพราะมีโอกาสที่วัยรุ่นจะกลืนกินสีที่เป็นส่วนผสมในเจลทินท์เข้าไปในร่างกายง่ายกว่า เนื่องจากจะใช้ทินท์ป้ายเข้าไปในริมฝีปากด้านในทั้งบนและล่าง ซึ่งเป็นเยื่อบุที่บอบบาง หากเป็นสีที่ไม่ใช่สีที่ใช้ผสมอาหาร เป็นสีต้องห้ามมีอันตราย หรือสีไม่ได้มาตรฐานสารที่อยู่ในสีก็จะซึมเข้าไปตามเยื่อบุปาก และถูกกลืนกินเข้าไปได้ง่าย ทำให้มีความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะโรคมะเร็ง ซึ่งจากผลทดสอบทางห้องปฏิบัติ การพบว่า สามารถก่อมะเร็งในสัตว์ทดลองได้ ดังนั้น การเลือกใช้จึงต้องพิถีพิถันในเรื่องคุณภาพเป็นพิเศษ

นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า กองเครื่องสำอางและวัตถุอันตราย อย. ได้ทำการตรวจสอบเครื่องสำอางประเภทลิปสติก ในรอบ 3 ปีมานี้ โดยเน้นตัวอย่างในแหล่งชุมชนที่มีการจำหน่ายสินค้าราคาถูกและในจังหวัดที่ติดเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน จำนวน 693 ตัวอย่าง พบสีห้ามใช้ 164 ตัวอย่าง โดยลิปสติกที่ฉลากไม่ครบถ้วน หรือเป็นภาษาต่างประเทศ พบสีห้ามใช้ถึงร้อยละ 39 ซึ่งมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ 2535 ดังนั้นวัยรุ่นที่คิดจะใช้เครื่องสำอาง จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆมีความปลอดภัย โดยดูจากบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด ปิดผนึกแน่นหนา ที่สำคัญต้องมีฉลากระบุส่วนผสมสำคัญ แหล่งผลิต ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ข้อแนะนำการใช้อย่างชัดเจน เครื่องสำอางที่แบ่งบรรจุไม่มีฉลากไม่ควรซื้อมาใช้อย่างเด็ดขาด

ด้าน นพ.จิโรจ สินธวานนท์ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า ลิปสติกเป็นเครื่องสำอางที่ใช้แต่งริมฝีปาก เพื่อให้ความชุ่มชื้น ทำให้ริมฝีปากสวยงามและปกปิดความบกพร่องของริมฝีปาก หากลิปสติกมีส่วนผสมของสารต้องห้าม เช่น สารนิเกิล โลหะ หรือสารตะกั่ว ซึ่งจะอยู่ ในสีที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม ก็จะก่อให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง เกิดพิษรุนแรง และพิษดูดซึมเข้าระบบทางเดินอาหาร ทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ตาพร่ามัว หรือทำให้ริมฝีปากปวดแสบปวดร้อน คัน เห่อแดง บวม หรือลอกเป็นขุย อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นลิปสติกที่ได้มาตรฐานทั่วไป แต่การใช้ลิปสติกทาบนริมฝีปาก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่ออ่อนวันละหลายครั้ง และสัมผัสริมฝีปากเป็นเวลานานๆ ก็อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ง่ายกว่าผิวหนังบริเวณอื่น โดยสาเหตุของการแพ้นั้น มาจากน้ำหอมที่เป็นส่วนผสมในลิปสติก หรืออาจมีสารบางชนิดกระตุ้นให้เกิดการแพ้

ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สีในลิปสติกบางชนิด อาจทำปฏิกิริยากับแสงแดด ทำให้เกิดผื่น ผิวหนังอักเสบ ส่วนลิปสติกที่มีไขมันและน้ำมันน้อย อาจทำให้ริมฝีปากแห้งแตก ทำให้แพ้ง่าย เป็นต้น โดยระยะในการแพ้จะอยู่ในช่วง 7-10 วันที่ผ่านมาพบว่า สีลิปสติกที่ทำให้ผู้ใช้แพ้มากที่สุด ได้แก่ กลุ่มที่ให้สีสดคือ สีส้ม ชมพูและสีแดง แต่การแพ้นั้นไม่ได้เกิดทุกคน แต่ละปีจะมีคนแพ้ลิปสติก ปากเจ่อ พบแพทย์ที่สถาบันโรคผิวหนัง เฉลี่ยปีละประมาณ 100 ราย

"ปกติวัยรุ่นมักจะมีริมฝีปากเป็นสีที่เป็นธรรมชาติสวยอยู่แล้ว เพราะเป็นวัยที่มีสุขภาพดี การดูแลความสะอาดริมฝีปาก และทาลิปมันหรือลิปกลอสเพื่อให้ความชุ่มชื้นจึงเพียงพอแล้ว และหากมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะยิ่งช่วยให้ระบบการสูบฉีดเลือดในร่างกายดี ทำให้ปากและแก้มเป็นสีชมพูตามธรรมชาติยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ควรเลือกกินอาหารที่มีสารอาหาร และวิตามินครบถ้วน ดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ปากชุ่มชื้น หากต้องการจะใช้เครื่องสำอาง ขอให้เลือกเครื่องสำอางที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ มีการรับรองมาตรฐานถูกต้อง และควรสังเกตอาการแพ้ด้วย เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้" นพ.จิโรจ กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบการวางจำหน่ายของเจลสี หรือ ทิ้นท์ พบว่า เป็นเครื่องสำอางยอดนิยมของกลุ่มวัยรุ่นไทย มีวางจำหน่ายทั่วไป ตั้งแต่ในตลาดนัด ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายเครื่องสำอางทั่วไป ในห้างสรรพสินค้าต่างๆ รวมถึงเว็บไซต์ขายเครื่องสำอาง สนนราคาตั้งแต่ 80-1,000 บาท มีให้เลือกหลากหลายสี ทั้งสีแดง ชมพู ส้ม สตรอเบอร์รี่ ส่วนใหญ่ได้มีการอวดอ้างสรรพคุณของการใช้เจลสีดังกล่าวว่า เป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ออสเตรเลีย และอเมริกา เมื่อทาแล้วริมฝีปากจะดูอวบอิ่มวาวฉ่ำ เซ็กซี่จนน่าหลงใหล ส่วนเมื่อทาแก้มจะเสริมความสวยใส สีแดงอมชมพูระเรื่อ เหมือนสาวเกาหลี และเป็นที่น่าสังเกตว่า เจลสีเหล่านั้นส่วนใหญ่ผู้จำหน่ายจะใช้วิธีอ้างถึงส่วนผสมและสรรพคุณของผลิตภัณฑ์แทนที่จะมีภาพสินค้าจริงๆ มาให้ดู



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ


ภัยลิปสติกเจล เสี่ยงมะเร็ง! ภัยลิปสติกเจลเสี่ยงมะเร็ง!

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ป้องกันแสงแดดให้ได้ผล

ป้องกันแสงแดดให้ได้ผล


เปิดอ่าน 11,590 ครั้ง
5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก

5 ตุ๊กตาสุดฮิตของโลก


เปิดอ่าน 15,515 ครั้ง
เพลงลอยกระทง

เพลงลอยกระทง


เปิดอ่าน 15,806 ครั้ง
วิธีแต่งบ้านคลายร้อน

วิธีแต่งบ้านคลายร้อน


เปิดอ่าน 11,026 ครั้ง
5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30

5 สิ่งที่ควรทำก่อนจะอายุ 30


เปิดอ่าน 15,673 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

กระทรวงวัฒนธรรม เปิดดาวน์โหลดภาพหาชมยากของในหลวง กว่า 30,000 ภาพ

กระทรวงวัฒนธรรม เปิดดาวน์โหลดภาพหาชมยากของในหลวง กว่า 30,000 ภาพ

เปิดอ่าน 12,312 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ซื้อขาย มอเตอร์ไซค์กับ ENNXO แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์
ซื้อขาย มอเตอร์ไซค์กับ ENNXO แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับคนรักมอเตอร์ไซค์
เปิดอ่าน 138 ☕ คลิกอ่านเลย

ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?
ลายมืออัจฉริยะผู้นำ เป็นอย่างไร?
เปิดอ่าน 14,794 ☕ คลิกอ่านเลย

สกว. แฉอันตรายเส้นก๋วยเตี๋ยว
สกว. แฉอันตรายเส้นก๋วยเตี๋ยว
เปิดอ่าน 9,050 ☕ คลิกอ่านเลย

ปัสสาวะบอกโรค ลองสังเกตตัวเองดูสิ
ปัสสาวะบอกโรค ลองสังเกตตัวเองดูสิ
เปิดอ่าน 26,182 ☕ คลิกอ่านเลย

ระวัง! อาหารจะทำให้คุณขาดน้ำ
ระวัง! อาหารจะทำให้คุณขาดน้ำ
เปิดอ่าน 9,768 ☕ คลิกอ่านเลย

เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม
เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม
เปิดอ่าน 22,769 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ
อยากเลี้ยงลูกให้ฉลาด ต้องไม่มีคำว่า....โดย ดร.สุพาพร เทพยวรรณ
เปิดอ่าน 24,985 ครั้ง

เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!
เพลง "วันพรุ่งนี้" ที่เด็กร้องแล้วผู้ใหญ่ฟังแล้วอึ้ง!
เปิดอ่าน 18,637 ครั้ง

เพลง "วันแม่"
เพลง "วันแม่"
เปิดอ่าน 59,090 ครั้ง

รู้ยัง? “5 ผลไม้ เด่น ที่น่าปลูกในอนาคต” มีอะไรบ้าง
รู้ยัง? “5 ผลไม้ เด่น ที่น่าปลูกในอนาคต” มีอะไรบ้าง
เปิดอ่าน 21,133 ครั้ง

ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
ตามไปดูการศึกษานอกหลักสูตร : จับตามองครูในศตวรรษที่ 21 "ครูหัวใจสะเต็ม"
เปิดอ่าน 19,961 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ