ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ผลการประชุมสภาการศึกษา 1/2558


ข่าวจากกระทรวงศึกษาธิการ 20 ก.พ. 2558 เวลา 08:54 น. เปิดอ่าน : 4,683 ครั้ง
Advertisement

ผลการประชุมสภาการศึกษา 1/2558

Advertisement

พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมสภาการศึกษา ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558 โดยมี ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานและการประกันคุณภาพ สภาการศึกษา ร่วมประชุม โดยมีประเด็นสำคัญโดยสรุปดังนี้

● บทบาทของ สกศ. ในยุคปฏิรูปการศึกษา

ที่ประชุมได้หารือถึงบทบาทของสภาการศึกษาในยุคปฏิรูปการศึกษา ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เสนอ ซึ่งได้เสนอให้มีการเปลี่ยนชื่อสำนักงานใหม่เป็น “สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์แห่งชาติ” หรือ สกศ. (อาจจะมีการปรับเปลี่ยนชื่อใหม่) เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี โดยมีบทบาทดังนี้

- เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่กำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษา และทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ
- เป็นคลังข้อมูลทางการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ
- เป็นศูนย์กลางข้อมูลการวิจัยทางการศึกษา
- จัดทำกรอบงบประมาณตามแผนพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ
- จัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ แผนการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ และนโยบายเฉพาะด้าน
- วิจัย ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการศึกษา
- ติดตามและประเมินผลการพัฒนาการศึกษา ฯลฯ

การดำเนินงาน จะเป็นการขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งเป็นองค์คณะบุคคลที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีวิสัยทัศน์ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และเป็นที่ยอมรับ ปลอดการแทรกแซงจากกลุ่มผลประโยชน์ โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาและเสนอยุทธศาสตร์ชาติด้านการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ เสนอความเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ต่อนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบงบประมาณตามแผนพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ ติดตามและประเมินผลการพัฒนาการศึกษา ให้ข้อเสนอแนะด้านกฎหมาย ให้หน่วยงานหรือบุคคลมาให้ข้อมูลประกอบการดำเนินงาน และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ

อำนาจหน้าที่ มีหน้าที่ในการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ จัดทำข้อเสนอนโยบายและแผน วิจัยและส่งเสริมการวิจัย พัฒนาคลังข้อมูลทางการศึกษา วิเคราะห์และจัดทำกรอบงบประมาณ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตาม/ประเมินผล และศึกษา วิเคราะห์ ให้ความเห็นในการจัดทำ ปรับปรุง แก้ไขกฎหมายการศึกษา ตลอดจนจัดทำข้อเสนอนโยบายด้านการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ต่อคณะรัฐมนตรีที่เข้ารับหน้าที่ใหม่ เพื่อประกอบการจัดทำนโยบายด้านการพัฒนาการศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ของรัฐบาล

ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ของ สกศ. จะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ คือ 1) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2553 2) พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2553 3) กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2546 4) กฎกระทรวงกำหนดจำนวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการสรรหา การเลือกกรรมการ วาระการดำรงตำแหน่ง และการพ้นจากตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการสภาการศึกษา พ.ศ.2546

รมว.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในประเด็นนี้ว่า โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับการปรับบทบาทของ สกศ. และการเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะขณะนี้เรายังขาดผู้ที่จะคิดนโยบายระดับชาติด้านการศึกษา และเรื่องของการใช้ทรัพยากรมนุษย์ในอีก 10 ปีข้างหน้า จึงควรมีหน่วยงานหรือกลุ่มบุคคลที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีเพื่อวางแผนอนาคตให้กับประเทศชาติทั้งในด้านการใช้ทรัพยากรมนุษย์และด้านการศึกษา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น ซึ่งที่ประชุมได้มอบให้ สกศ.ประมวลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของกรรมการสภาการศึกษา เพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงให้เป็นส่วนหนึ่งของบทบาทของ สกศ.อย่างเหมาะสม และนำกลับมาเสนอในการประชุมครั้งต่อไป

● ทิศทางการพัฒนาการศึกษาระดับภาคการศึกษา

ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงาน "โครงการจัดทำรายงานทิศทางการพัฒนาการศึกษาระดับภาคการศึกษา" เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลในการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ (ปี พ.ศ.2560-2569) แทนแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง ที่จะสิ้นสุดระยะเวลาของแผนในปี พ.ศ.2559 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาการศึกษาเชิงพื้นที่ตามศักยภาพและภูมิสังคมของแต่ละภาคการศึกษา และให้ทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วมในการเสนอทิศทางการพัฒนาการศึกษา

โดยมีแนวทางการดำเนินงาน คือ ศึกษาวิเคราะห์สถานการณ์ ความเปลี่ยนแปลง และแนวโน้มทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สถานการณ์ด้านการศึกษา และสถานการณ์ความต้องการกำลังคนของจังหวัดและภาคการศึกษา ตลอดจนยกร่างรายงานทิศทางการพัฒนาการศึกษาของภาคการศึกษาในช่วง พ.ศ.2560-2569 จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน พร้อมทั้งปรับแก้และจัดทำร่างรายงานฉบับสมบูรณ์ให้เสร็จสิ้นได้ภายในเดือนพฤษภาคม 2558

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ สกศ.รับข้อเสนอของกรรมการไปปรับแก้ให้เหมาะสมกับแผน ทั้งประเด็นการสร้างความเป็นคน การสร้างบุคลากรเพื่อพัฒนาประเทศในอนาคต และที่สำคัญที่สุดคือเพิ่มบทบาทการจัดการศึกษาของศาสนาทุกศาสนา เพราะการศึกษาไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น แต่อยู่ในความรับผิดชอบของคนทุกคนและทุกภาคส่วนของสังคม รวมทั้งจะต้องเป็นการศึกษาตลอดชีวิต ที่ไม่ได้อยู่เฉพาะระดับปฐมวัยถึงอุดมศึกษาในโรงเรียนหรือสถานศึกษา แต่จะต้องครอบคลุมไปถึงผู้ที่อยู่นอกระบบการศึกษาด้วย อาทิ ผู้ด้อยโอกาส คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ เป็นต้น

ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ ได้กล่าวถึงโจทย์ของประเทศที่จะเป็นทิศทางในการจัดการศึกษาในอีก 20 ปีข้างหน้าว่า กว่าร้อยละ 30 ของคนไทยจะมีอายุมากกว่า 60 ปี จึงต้องวางแผนการพัฒนาผู้สูงวัย รวมทั้งพิจารณาโจทย์ของประเทศที่ในอนาคตจะมีคนวัยทำงานอีกกว่า 35 ล้านคน ตลอดจนคำนึงถึงระบบนิเวศวิทยาของประเทศ ที่จะมีการลงทุน Mega Project และการเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะด้วย


● เห็นชอบองค์ประกอบคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประชุมโต๊ะกลมไทย-สหรัฐฯ ด้านการศึกษา


จากการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยการพัฒนาการเรียนการสอน หลักสูตร และการประเมินผลการศึกษา โดยทรงมีพระราชดำริว่าประเทศไทยควรได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับต่างประเทศ จึงทรงประสานให้นักวิชาการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษาของไทยได้แลกเปลี่ยนกับนักวิชาการของสหรัฐอเมริกา จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการประชุมโต๊ะกลมไทย-สหรัฐอเมริกาด้านการศึกษา

ซึ่งที่ผ่านมา ไทยและสหรัฐอเมริกาได้สลับกันเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมมาแล้ว 6 ครั้ง โดยการประชุมแต่ละครั้งจะมีกิจกรรมก่อนและหลังการประชุม ในส่วนของประเทศไทยได้มีการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายต่อรัฐบาล สร้างความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกาในการวิจัยนโยบายและการทำงานร่วมกัน ที่สำคัญคือได้ใช้ผลการวิจัยประกอบการจัดทำข้อเสนอนโยบายยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษา ในช่วงปี 2553-2554 ด้วย

สำหรับปีนี้ ได้กำหนดจัดการประชุมครั้งที่ 7 ขึ้นในประเทศไทย เพื่อสานต่อโครงการตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานกิตติมศักดิ์ของโครงการ และในโอกาสฉลองพระชนมพรรษา 5 รอบด้วย

ที่ประชุมจึงให้ความเห็นชอบองค์ประกอบคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประชุมโต๊ะกลมไทย-สหรัฐอเมริกาด้านการศึกษา เพื่อทดแทนคณะอนุกรรมการที่สิ้นสุดวาระลง โดยมี ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ เป็นที่ปรึกษาอนุกรรมการ และรองศาสตราจารย์ คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ เป็นประธานอนุกรรมการ มีเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นรองประธานอนุกรรมการ มีอนุกรรมการ 13 ราย และมีรองเลขาธิการสภาการศึกษา เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ

เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้แทนในการประชุมโต๊ะกลมฯ วางแผน เตรียมการ และกำหนดแนวนโยบายการจัดประชุม จัดทำโครงการความร่วมมือทางวิชาการด้านการศึกษาระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา กำหนด กำกับ และดูแลงานวิจัย เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับการจัดการศึกษาด้านต่างๆ ตลอดจนแต่งตั้งคณะทำงานอื่นๆ ตามความเหมาะสมต่อไป


นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการสภาการศึกษา ด้านต่างๆ คือ

- คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านติดตามและประเมินผลการศึกษา ซึ่งมีนายสมนึก พิมลเสถียร เป็นประธาน ได้รายงานความก้าวหน้าการวิจัยพัฒนาการออกแบบและพัฒนาระบบติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา (ร่าง) และกรอบการติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา

- คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการสื่อสารและใช้เทคโนโลยีพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ ซึ่งมีนายมินทร์ อิงค์ธเนศ เป็นประธาน ได้รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญ คือ ศึกษาดูงานโรงเรียนต้นแบบที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ประสบความสำเร็จในการจัดการเรียนการสอนแบบ Smart Classroom ร่วมประชุมทางวิชาการเรื่องการบูรณาการเทคโนโลยีเพื่อการศึกษารูปแบบใหม่

- คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านพัฒนาศักยภาพเยาวสตรีในสถานศึกษา รายงานโดยนางวัชรินทร์ ศานตระกูล รองประธาน ที่ได้มีการรายงานสรุปผลการจัดงานชุมนุมยุวกาชาดและเยาวสตรีภาคใต้ภายใต้การทำงานร่วมระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) สรุปผลการดำเนินโครงการยุวกาชาดโรงเรียนลำปางกัลยาณีบำเพ็ญประโยชน์ เป็นต้น

 

ที่มา ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ

คุณครูใช้พลังเสียงแต่ละวันมากไหม? ลองดู (ไมค์wireless,รองรับFM) Rolton K400FM ไมค์ลอย ไมค์ไร้สาย ไมค์ช่วยสอน ลำโพงพกพา ลำโพง ไมค์ลอย K400 FM ในราคา ฿494 - ฿592 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/50IAUAsJw0?share_channel_code=6


ผลการประชุมสภาการศึกษา 1/2558ผลการประชุมสภาการศึกษา12558

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

:: เรื่องปักหมุด ::

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559

ผลการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559

เปิดอ่าน 34,190 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ผลประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 9/2555 (31 ส.ค.2555)
ผลประชุม ก.ค.ศ.ครั้งที่ 9/2555 (31 ส.ค.2555)
เปิดอ่าน 14,685 ☕ คลิกอ่านเลย

"ราชบัณฑิตสถานสรรเสริญ" ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ประจำปี 2555
"ราชบัณฑิตสถานสรรเสริญ" ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ประจำปี 2555
เปิดอ่าน 9,550 ☕ คลิกอ่านเลย

การประชุมแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
การประชุมแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เปิดอ่าน 14,267 ☕ คลิกอ่านเลย

ผลประชุมองค์กรหลัก - ยกระดับการอ่านของเด็กไทย
ผลประชุมองค์กรหลัก - ยกระดับการอ่านของเด็กไทย
เปิดอ่าน 6,261 ☕ คลิกอ่านเลย

นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ 2558
นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ 2558
เปิดอ่าน 89,398 ☕ คลิกอ่านเลย

ก.ค.ศ.เห็นชอบกำหนดอัตราเงินเดือนครูแรกบรรจุ 15,000 บาท
ก.ค.ศ.เห็นชอบกำหนดอัตราเงินเดือนครูแรกบรรจุ 15,000 บาท
เปิดอ่าน 25,030 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน
(ก.ค.ศ.)การจ่ายค่าตอบแทนมีความสำคัญยิ่งในฐานะเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของหน่วยงาน
เปิดอ่าน 19,684 ครั้ง

ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
ความเข้าใจเรื่องแผ่นดินไหว: ประเทศไทยกับ 3 รอยเลื่อนมีพลัง และพื้นที่เสี่ยงภัย 5 ระดับ
เปิดอ่าน 24,284 ครั้ง

ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่6
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่6
เปิดอ่าน 7,502 ครั้ง

เทคนิคการคูณเลข เมื่อไม่มีเครื่องคิดเลข
เทคนิคการคูณเลข เมื่อไม่มีเครื่องคิดเลข
เปิดอ่าน 16,375 ครั้ง

เคยได้ยินแต่ Copyright อย่างเดียว มาดูว่า Copyleft บ้าง
เคยได้ยินแต่ Copyright อย่างเดียว มาดูว่า Copyleft บ้าง
เปิดอ่าน 11,495 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ