Advertisement
Advertisement
การเคี้ยวอาหารมิเพียงเกี่ยวกับสุขภาพเท่านั้น ยังเกี่ยวพันกับสมรรถนะของสมองอย่างแนบแน่นด้วย เพราะการเคี้ยวมาก จะช่วยให้สมองปราดเปรียวขึ้น โดยการเคี้ยวอาหารจะกระตุ้นให้ต่อมน้ำลาย (salivary gland) และต่อมใต้หู (parotid gland) หลั่งฮอร์โมนออกมา ขณะเดียวกัน อาการเคี้ยวซึ่งทำให้ฟันบนกับฟันล่างกระทบกัน ก็จะกระตุ้นสมองใหญ่ด้วย การกระตุ้นนี้จะทำให้สมองใหญ่ปราดเปรียวยิ่งขึ้น ช่วยเพิ่มพลังแห่งการวินิจฉัย การขบคิดและสมาธิ
ต่อไปนี้คือผลที่ได้จากการทดลองเกี่ยวกับจำนวนครั้งที่เคี้ยวอาหาร
การเคี้ยวอาหาร 30 ที ผลที่ได้จากการกินอาหารแต่ละคำ ควรเคี้ยวอย่างน้อยที่สุด 30 ที จะช่วยให้เหงือกแข็งแรง และช่วยรักษาอาการขี้หงุดหงิดจิตใจไม่สงบ
การเคี้ยวอาหาร 50 ที จะช่วยลดการกลัดกลุ้มเจ้าอารมณ์ อย่างน้อยที่สุดช่วยให้ลืมเรื่องไม่น่าอภิรมย์ได้ในเวลากินอาหาร นอกจากนี้ ยังลดความอ้วนได้ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำที่เกินจำเป็นถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
การเคี้ยวอาหาร 100 ที ช่วยให้หนักแน่นมากขึ้น สามารถวินิจฉัยและจัดการปัญหาต่าง ๆ อย่างสงบเยือกเย็น กินน้อยแต่ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้มาก นอกจากนี้ยังช่วยลดการอยากอาหารประเภทเนื้อ หรือระคายต่อร่างกายได้ด้วย
การเคี้ยวอาหาร 200 ที ถ้ายืนหยัดเคี้ยว 200 ที ต่ออาหาร 1 คำได้ทุกมื้อแล้ว จะหายจากโรคกระเพาะเรื้อรัง และโรคกระเพาะอาหารเป็นแผลอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันก็ช่วยให้คาดการณ์และวินิจฉัยปัญหาต่าง ๆ ได้แม่นยำมากขึ้น
ขอบคุณข้อมูลจาก :: เฟริส์ท
Advertisement
|
เปิดอ่าน 41,205 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,775 ครั้ง |
เปิดอ่าน 79,461 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,939 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,546 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,655 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,559 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,573 ครั้ง |
เปิดอ่าน 43,108 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,408 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,730 ครั้ง |
เปิดอ่าน 6,939 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,232 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,273 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,051 ครั้ง | |
|

เปิดอ่าน 13,384 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 29,069 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 2,713 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 33,590 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 18,506 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 14,539 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 2,888 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 5,842 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 15,315 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 7,770 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 36,500 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 42,101 ครั้ง |
|
|