ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

สมิทธชี้ 22 กค. แผ่นดินไหว ! ! ! อาจเป็นไปได้.....! ! !


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,254 ครั้ง
สมิทธชี้  22  กค. แผ่นดินไหว ! ! ! อาจเป็นไปได้.....! ! !

Advertisement

❝ ไม่ควรตื่นตระหนก ไม่ควรวิตกจนเกินการณ์ จะพาลให้วุ่นวายใจ ❞

อดีต  เมื่อวันวาน แถลงการณ์ เรื่อง เตือนภัย

"สมิทธ"เตือนไทยอาจถูก"คลื่นยักษ์สึนามิ"ถล่มอีกระลอก


ชี้ปี 52 ไทยร้อนจัดอุณหภูมิทะลุ 42 องศา เหตุแกนโลกสวิงเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ ทำน้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็ว กระทบเกษตรจำนวนผลผลิตลดลง อาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากภาวะคลื่นความร้อนมากขึ้น ขณะที่ฤดูฝนปีนี้มาเร็วผิดปกติ เจอแน่ทั้งพายุ มรสุมเพียบ ซ้ำเกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. นายสมิทธ ธรรมสโรช อดีตประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ
เปิดเผยถึงแนวโน้มการเกิดภัยพิบัติธรรมชาติในปี 52 ว่า ขณะนี้ทางกรมอุตุนิยมวิทยากำลังจับตาดูอยู่ เพราะอากาศที่ปกคลุมประเทศไทยปีนี้มีความผิดปกติพอสมควร โดยเฉพาะฤดูหนาวที่มีลมมรสุมจากตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังพัดแรงที่มาพร้อมกับอากาศเย็นจากประเทศจีนส่งผลถึงไทย ทำให้ช่วงฤดูหนาวไทยมีความเย็นผิดปกติ และต่อเนื่องระยะยาว และยังทำให้เกิดคลื่นลมในทะเลอ่าวไทยที่เรียกว่า สตอมเซอจขนาดเล็ก ทำให้บ้านเรือนริมชายฝั่งได้รับผลกระทบตั้งแต่ จ.เพชรบุรี ถึง จ.สตูล ซึ่งจะเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติจากปีก่อน ๆ และมีความรุนแรงมากกว่า  นายสมิทธ กล่าวต่อว่า นักวิทยาศาสตร์ ทั่วโลกกำลังดูอยู่ว่า ทำไมปีนี้อากาศเย็นจากขั้วโลกเหนือจึงเย็นลงมาจนถึงพื้นที่เส้นศูนย์สูตร
ซ้ำยังหนาวเย็นเป็นระยะยาวต่อเนื่องมากผิดปกติ ไม่เฉพาะแต่ประเทศไทยเท่านั้น แต่รวมถึงประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา ซึ่งพบว่าบางแห่งเกิดปรากฏการณ์พายุหิมะตกผิดปกติ อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่า ภาวะดังกล่าวเกิดจากแกนโลกหมุนเอียงออกจากดวงอาทิตย์มากกว่าปกติหรือไม่ โดยอยู่ที่ประมาณ 23.5 องศา ส่งผลให้ประเทศที่อยู่ซีกโลกเหนือจะมีความหนาวเย็นมากผิดปกติ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง แกนโลก จะสวิงกลับ โลกจะเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์มาก กว่าปกติเช่นกัน ส่งผลให้หน้าร้อนที่กำลังมาถึงร้อนมากขึ้น
อดีตประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติฯ กล่าวอีกว่า ภาวะดังกล่าวจะทำให้น้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็วขึ้น  ส่งผลให้ปริมาณน้ำทะเลเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ประเทศในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทยจะมีอากาศร้อนมากกว่าปกติ กระทบต่อภาคการเกษตร จำนวนผลผลิตลดลง ตั้งแต่ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และพืชการเกษตรส่งออกทั้งหมด ขณะเดียวกันศัตรูพืชก็จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากภาวะคลื่นความร้อนมากขึ้น ซึ่งที่อินเดียมีคนเสียชีวิตทุกปี และประเทศไทยอาจมีผู้เสียชีวิตได้ในพื้นที่ร้อนจัด เช่นที่ จ.ตาก และอุตรดิตถ์ แต่ทั้งนี้ฤดูร้อนอาจมีระยะเวลาที่สั้นกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ต่อจากนั้นจะเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดมาจากมหาสมุทรอินเดีย และทะเลอันดามัน จะทำให้มีพายุมากขึ้น ซ้ำยังรุนแรงมากกว่าปกติ ซึ่งในช่วงนี้ประเทศ ไทยจะประสบภัยพิบัติจากพายุ ทั้งจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ทำให้บ้านเรือนเสียหายอย่างมาก

“ขอให้ติดตามดูฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง จะเริ่มช่วงปลายเดือน ก.พ. ต้องดูว่า อากาศร้อนมีความร้อนจัดจนอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นจนถึงขั้นผิดปกติหรือไม่ เชื่อว่าประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ 42 องศา ผลที่ตามมาคือทำให้ฤดูฝนผิดปกติไปด้วย กระทบต่อการดำเนินชีวิตทั้งหมด ส่วนสาเหตุที่ทำให้โลกเอียง คือ 1. เป็นไปโดยธรรมชาติ 2. เป็นเพราะการกระทำของมนุษย์ เนื่องจากมีการวิเคราะห์ว่า การที่ประเทศจีน และอีกหลาย ๆ ประเทศสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำไว้เหนือเส้นศูนย์สูตรเป็นปริมาณมหาศาล จำนวนล้าน ๆ ลูกบาศก์ เมตร เมื่อน้ำถูกเก็บไว้ในเขื่อนจนเต็ม ส่งผลให้โลกเสียสมดุลทำให้แกนโลกเอียงผิดปกติได้ แต่ทั้งนี้ยังเป็นเพียงข้อสันนิษฐาน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิ หรือแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นอีก นายสมิทธ กล่าวว่า อาจมีความเป็น ไปได้

เพราะเมื่อโลกเอียงเข้าเอียงออก ปริมาณ มวลโลกจะมีการเคลื่อนตัว เกิดการเคลื่อนตัวแผ่นเปลือกโลกทำให้เกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง และบ่อยครั้งขึ้น ซึ่งขณะนี้ก็เกิดแผ่นดินไหวเป็น ระยะ ๆ แล้ว แต่ยังไม่เคลื่อนตัวมากพอที่เกิดสึนามิได้ อย่างไรก็ตามปกติการเกิดแผ่นดินไหวมีวัฏจักร อาจไม่เกิดในมหาสมุทรอินเดีย แต่อาจเกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิก
นายสมิทธ กล่าวต่อว่า การเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติธรรมชาติขึ้นอยู่กับรัฐบาล ซึ่งสิ่งที่เรากลัวกันมาก ๆ คือ น้ำท่วมกรุงเทพฯ
     ซึ่งคาดการณ์ว่าต้องใช้เวลาประมาณ 20 ปี จึงจะเห็น แต่หากอุณหภูมิโลกเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับโลกเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ เหตุการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ อาจเกิดเร็วภายใน 10-15 ปี เพราะน้ำแข็งขั้วโลกละลายเร็ว จึงควรมีนโยบายป้องกัน แต่ตอนนี้รัฐบาลไม่ได้มีการเตรียมการอะไรเรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ เนื่องจากนักการเมืองต่างห่วงเก้าอี้มากกว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ถ้าหน้าร้อนปีนี้ อุณหภูมิร้อนมากผิดปกติแสดงว่า ทฤษฎีของตนถูก ต่อมาจะมีฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก เป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้าว่า โอกาสที่น้ำจะท่วมกรุงเทพฯแบบถาวรจะมาเร็วขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตนพูดไม่ได้ต้องการสร้างความตื่นตระหนก แต่อยากให้มีการเตรียมความพร้อมไว้เท่านั้น
ที่อาคารสถานศึกษาเคมีปฏิบัติ กรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี      นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานเปิดงาน “118 ปี ศาลาแยกธาตุ-กรมวิทยาศาสตร์บริการ” เนื่องในโอกาสคล้ายวันสถาปนากรมวิทยาศาสตร์บริการ จัดระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค. โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า การวางแผนพัฒนาประเทศจำเป็นต้องเข้าใจสภาวะแวดล้อมของโลกเพื่อปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลง ที่ผ่านมาไทยก็ทำได้ดี แต่ในด้านขีดความสามารถวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของไทยมักถูกประเมินให้อยู่ในระดับต่ำอยู่ แม้เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ถ้าปล่อยให้สะสมยาวนาน ก็จะบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันระยะยาว ดังนั้นการจะให้ประเทศแข่งขันอย่างยั่งยืนต้องผลักดันการวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และระดมความรู้ความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ งานวิจัย เศรษฐกิจ ภาคเอกชน ภาคประชาชน สนับสนุนนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน    ขณะที่ นายเมธา รัชตะปีติ ผู้ทรงคุณวุฒิ และที่ปรึกษาศูนย์ฝนหลวงหัวหิน กล่าวว่า ขอเตือนผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการของประเทศว่าควรเตรียมแผนรับมือฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง    เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนมาก่อนหน้าคือการมีอากาศหนาวเย็นนาน คาดว่าจะทำให้ฤดูแล้งปีนี้จะยกระดับเป็นภัยแล้งในที่สุด ไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่าจะยาวนานแค่ไหน และสิ่งที่เป็นห่วงมากก็คือ เขื่อนทั่วประเทศขณะนี้หลายเขื่อนมีปริมาณน้ำกักเก็บไม่ถึง 70% เนื่องจากในฤดูฝนที่ผ่านมา เกรงเขื่อนพังต้องเร่งระบายน้ำทิ้งทะเล ซึ่งทำให้เห็นว่าระบบบริหารทรัพยากรน้ำไม่มีมาตรฐาน เมื่อเป็นเช่นนี้อาจกระทบกับปริมาณน้ำที่จะนำมาใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคในช่วงฤดูแล้งได้.
ปัจจุบัน  วันนี้ไซร้  ยังคงให้คำชี้แจง

ดร. สมิทธ ชี้   22 กค. 52   แผ่นดินไหว อาจเป็นไปได้

ขอบคุณhttp://blog.eduzones.com/jipatar/27876



Pic_20214

 

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช


เนื่องจากเป็นวันที่ดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์เรียงตัวในระนาบเดียวกันเกิดสุริยคาส มีแรงดึงดูดให้เปลือกโลกขยับตัว โดยรอยเลื่อนของเปลือกโลกบริเวณเจดีย์สามองค์-ศรีสวัสดิ์ เมืองกาญจนบุรี น่าเป็นห่วง .วันที่17ก.ค.ที่ผ่านมา ดร.สมิทธ ธรรมสโรช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านการเตือนภัยพิบัติ กล่าวในการเสวนาเรื่องแนวโน้มภัยพิบัติธรรมชาติในอนาคต และการเตรียมพร้อม เพื่อรับมือกับภัยพิบัติ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ในปี 2552 จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติวาตภัย อุทกภัยสูงกว่าปกติจากสภาวะโลกร้อนขึ้นทุกวัน เพียงยังไม่เข้าฤดูฝนจริงๆ ซึ่ง 6-7 จังหวัดภาคใต้ฝั่งตะวันตกตั้งแต่จังหวัดระนอง – สตูล เกิดฝนตกน้ำท่วม และจะเกิดผลกระทบต่อไปช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี-นราธิวาส 
                   ดร.สมิทธ กล่าวต่อว่า ที่มีข่าวลือจะเกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 22 ก.ค.นี้ ทางวิชาการอาจเป็นไปได้จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญและนักดาราศาสตร์ จะเกิดดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์เรียงตัวในระนาบเดียวกันเกิดสุริยคราส มีแรงดึงดูดให้เปลือกโลกขยับตัว ซึ่งทางทฤษฎีเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวดึงคลื่นเข้าอ่าวไทยได้ หากเกิดขึ้นจริงควรเตรียมตัวไว้ 
"ถ้ามีการขยับตัวของเปลือกโลกแถบหมู่เกาะไต้หวัน ญี่ปุ่นตอนใต้และฟิลิปินส์จะเกิดคลื่นพัดเข้ามาถึงอ่าวไทยสูง 2-3 เมตรน้อยกว่าสึนามิ เพราะกว่าจะถึงอ่าวไทยสามารถใช้เวลาเตรียมตัวหลบหนีได้ทัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะออกมาให้ข้อมูล" ดร.สมิทธ กล่าว  ดร.สมิทธ กล่าวเพิ่มว่า น่าเป็นห่วงรอยเลื่อนของเปลือกโลกบริเวณรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์และรอยเลื่อน ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรีใต้เขื่อนศรีนครินทร์ ที่ยังมีพลังอยู่ ถึงแม้ตัวเขื่อนจะรับแรงแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริกเตอร์ได้ แต่หากแผ่นดินไหวรุนแรงกว่านี้อาจเกิดผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณใต้เขื่อนได้ จึงควรจะมีการซ้อมหลบหนีภัย 
น.พ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(ศูนย์นเรนทร) กล่าวว่า กำลังมีการเจราจาให้มีการซ้อมอพยพที่ จ.กาญจนบุรีไว้ก่อน หากไม่มีอะไรก็ไม่เป็นไร ซึ่งศูนย์นเรนทรได้มีการรวบรวมประสานเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานราชการเอกชน รวมทั้งเรือสปีดโบ๊ทไว้รับเหตุภัยพิบัติแล้ว โดยมีการกันเงินสำรองไว้ใช้จ่าย 10 ล้านบาทและมีเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาลฉุกเฉิน(EMS) ทั่วประเทศอีก 90,000 คน นอกจากนี้ตั้งเป้าให้มีหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในทุกตำบลด้วย

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์

Post by เดลินิวส์
 
Email
Address
Date 31-01-2009 Time 16:45

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 2614 วันที่ 18 ก.ค. 2552


สมิทธชี้ 22 กค. แผ่นดินไหว ! ! ! อาจเป็นไปได้.....! ! ! สมิทธชี้22กค.แผ่นดินไหว!!!อาจเป็นไปได้.....!!!

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ไข่ดิบมีประโยชน์จริงหรือ

ไข่ดิบมีประโยชน์จริงหรือ


เปิดอ่าน 6,275 ครั้ง
Don

Don't drink PEPSI in INDIA or PAKISTAN.


เปิดอ่าน 6,279 ครั้ง
กฎทอง 10 ข้อ ของคนรักกัน

กฎทอง 10 ข้อ ของคนรักกัน


เปิดอ่าน 6,331 ครั้ง
จราจรใจ

จราจรใจ


เปิดอ่าน 6,255 ครั้ง
รักแท้..ย่อมดูแลได้

รักแท้..ย่อมดูแลได้


เปิดอ่าน 6,255 ครั้ง
ดูแล้วหนาว  ภูเขาน้ำแข็ง

ดูแล้วหนาว ภูเขาน้ำแข็ง


เปิดอ่าน 6,260 ครั้ง
ยางรัดผม..... ลดพุง

ยางรัดผม..... ลดพุง


เปิดอ่าน 6,264 ครั้ง
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(20)

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(20)


เปิดอ่าน 6,367 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ความรัก...... เงื่อนไข และความคาดหวัง

ความรัก...... เงื่อนไข และความคาดหวัง

เปิดอ่าน 6,262 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ทำไมคนถึงรักหมา?
ทำไมคนถึงรักหมา?
เปิดอ่าน 6,281 ☕ คลิกอ่านเลย

>>>>....100 สุดยอดหนุ่มฮอตแห่ง ปี 2009 !!!
>>>>....100 สุดยอดหนุ่มฮอตแห่ง ปี 2009 !!!
เปิดอ่าน 6,275 ☕ คลิกอ่านเลย

เชิญประชุม
เชิญประชุม
เปิดอ่าน 6,267 ☕ คลิกอ่านเลย

ปัดฝุ่นชีวิต...พิชิตรักใหม่!?
ปัดฝุ่นชีวิต...พิชิตรักใหม่!?
เปิดอ่าน 6,269 ☕ คลิกอ่านเลย

ไลฟสไตล์มรณะ
ไลฟสไตล์มรณะ
เปิดอ่าน 6,254 ☕ คลิกอ่านเลย

ชะล้างแผลด้วยมะขาม (สูตรสมุนไพร)
ชะล้างแผลด้วยมะขาม (สูตรสมุนไพร)
เปิดอ่าน 6,272 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
เครื่องแบบข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงานราชการ
เปิดอ่าน 57,504 ครั้ง

เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เมื่อรู้สึกว่าอ้วนเกินไป ทำยังไงดี
เปิดอ่าน 15,420 ครั้ง

ชมคลิป สถานทูตสหรัฐทำคลิปรับวันสงกรานต์
ชมคลิป สถานทูตสหรัฐทำคลิปรับวันสงกรานต์
เปิดอ่าน 11,155 ครั้ง

การอ่านจับใจความสำคัญ
การอ่านจับใจความสำคัญ
เปิดอ่าน 156,822 ครั้ง

เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เหล็กปลอม ดูกันชัดๆ มันเป็นยังไง (ชมคลิป)
เปิดอ่าน 16,208 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ