ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมสุขศึกษาและพลศึกษา  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ดื่มน้ำ ยังไง ให้เกิดผลดีต่อร่างกาย


สุขศึกษาและพลศึกษา 19 ก.พ. 2568 (15:37 น.) เปิดอ่าน : 1,756 ครั้ง
Advertisement

ดื่มน้ำ ยังไง ให้เกิดผลดีต่อร่างกาย

Advertisement

เว็บไซต์ RAMA CHANNEL คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เปิดเผยข้อมูลวิธีการดื่มน้ำ ที่ดีต่อร่างกาย และเราควรดื่มเวลาไหน ดังนี้

   น้ำ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในร่างกาย เพราะร่างกายมีน้ำเป็นส่วนประกอบกว่าร้อยละ 70 และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์ในร่างกาย ช่วยในการนำของเสียออกจากร่างกาย ช่วยลำเลียงอาหารที่ย่อยแล้วไปยังส่วนต่าง ๆ และช่วยในการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย เพราะฉะนั้นการ ดื่มน้ำ เป็นวิธีการสำคัญที่จำเป็นต้องทำ

หน้าที่ของน้ำที่มีอยู่ในร่างกาย

  ร่างกายของคนเรามีส่วนประกอบของน้ำซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ โดยน้ำมีหน้าที่หลายอย่าง ดังนี้

  1. เป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ของเซลล์ทั่วร่างกาย
  2. เป็นส่วนประกอบของเลือด น้ำเหลือง น้ำดี น้ำย่อยอาหาร เหงื่อ ปัสสาวะ และน้ำทั่วร่างกาย
  3. ทำหน้าที่ละลายอาหารที่ย่อยแล้วและแพร่ผ่านผนังหลอดเลือดที่ลำไส้เล็กเข้าสู่กระแสเลือด
  4. ทำหน้าที่เป็นตัวกลางนำอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ นำของเสียออกจากร่างกายผ่านทางอวัยวะ เช่น ปอด ผิวหนัง ไต
  5. ช่วยหล่อลื่นอวัยวะต่าง ๆ ให้มีการเคลื่อนไหวได้ดีและทำงานได้ตามปกติ เช่น น้ำในข้อต่อ ช่องท้อง ช่องปอด
  6. ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ตลอดเวลา รวมทั้งทำให้ร่างกายสดชื่น

ทำไมต้อง ดื่มน้ำ ให้ครบ 8 แก้ว

   เนื่องจากในร่างกายของคนเรามีน้ำอยู่ในร่างกายประมาณร้อยละ 60-70 และในแต่ละวันร่างกายต้องสูญเสียน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร ซึ่งขับออกมาทางปัสสาวะ เหงื่อ หรือลมหายใจ ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ ช่วงอายุ และน้ำหนักของแต่ละบุคคล

   ดังนั้นเราจึงต้องดื่มน้ำเพื่อชดเชยน้ำที่สูญเสียไปทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร ร่างกายอาจมีการสูญเสียน้ำมากกว่าปกติได้หากมีการสูญเสียน้ำทางอื่น เช่น ท้องเสีย อากาศร้อนมากจนมีการระเหยน้ำทางลมหายใจและเสียเหงื่อมากขึ้น สำหรับผู้มีโรคประจำตัวบางชนิดอาจต้องมีการจำกัดน้ำ เนื่องจากร่างกายขับน้ำส่วนเกินได้น้อย เช่น กลุ่มผู้ป่วยโรคไต โรคหัวใจ ผู้มีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับปริมาณการบริโภคน้ำที่เหมาะสมกับตนเอง

   หากดื่มมากหรือน้อยเกินไปก็จะส่งผลต่อร่างกายได้ เมื่อร่างกายขาดน้ำ การทำงานของระบบอวัยวะจะติดขัด เมื่อร่างกายได้รับน้ำมากเกินไปจนเกิดภาวะน้ำเป็นพิษ เกิดการเสียสมดุลระหว่างน้ำในเซลล์และนอกเซลล์ ทำให้ความเข้มข้นของเลือดลดลง ร่างกายต้องขับแร่ธาตุบางชนิดออกจากเซลล์เพื่อปรับสมดุลของน้ำ อีกทั้งยังขาดความสมดุลของแร่ธาตุชนิดนั้นแทน ส่งผลให้เกิดความผิดปกติขึ้นในกระบวนการทำงานของเซลล์ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

วิธีการดื่มน้ำ ให้ดีต่อร่างกาย และเพียงพอในแต่ละวัน ?

   ควรดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป โดยมาตรฐานการดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ก็เพียงพอต่อการทำงานของร่างกายของบุคคลทั่วไป แต่ความจริงแล้วยังมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น กิจกรรมที่เราทำในแต่ละวัน เพศ อายุ โรคประจำตัว ความร้อนในสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนกำหนดความเหมาะสมต่อการดื่มน้ำในแต่ละวันด้วยเช่นกัน

การดื่มน้ำที่ดีช่วยลดการเกิดนิ่วได้จริงหรือ ?

   น้ำดื่มที่สะอาดจะช่วยลดการเกิดนิ่วชนิดออกซาเลตในไต บรรเทาการอักเสบของทางเดินปัสสาวะ ลดอาการท้องผูก น้ำสะอาดจะเร่งการขับสารพิษ และของเสียออกไป เมื่อดื่มน้ำที่เพียงพอต่อร่างกาย น้ำจะไปช่วยหล่อลื่นข้อกระดูกต่าง ๆ ลดอาการปวดข้อ ปวดหลัง และปวดเอว นอกจากนี้ยัง การดื่มน้ำสามารถรักษาความสะอาดช่องปาก ป้องกัน “นิ่วน้ำลาย” ได้อีกด้วย

วิธีเลือกน้ำดื่มที่สะอาด ปลอดภัย ต่อร่างกาย

   น้ำดื่มในปัจจุบันมีหลากหลายแบบจึงควรเลือกน้ำดื่มที่ผลิตจากบริษัทที่มีมาตรฐาน มีฉลากติดที่ขวด และมีสัญลักษณ์ ดังนี้

  1. สัญลักษณ์และหมายเลข อย.
  2. สัญลักษณ์ Good Manufacturing Practice (GMP)
  3. ตรามาตรฐาน Hazards Analysis and Critical Points (HACCP) ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากล

ดื่มน้ำ ชนิดอื่นทดแทนน้ำในร่างกายได้หรือไม่ ?

   เครื่องดื่มชนิดอื่น เช่น น้ำอัดลม ชา กาแฟ เหล้า เบียร์ จะทำให้เกิดการขับน้ำออกจากร่างกายมากยิ่งขึ้น เพราะคาเฟอีนจะกระตุ้นการขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น และน้ำตาลที่เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นสาเหตุของระดับน้ำตาลในเลือดสูง อาจนำไปสู่โรคเบาหวานได้ ในผู้ป่วยเบาหวานที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากจะมีปัญหาการขับปัสสาวะมากกว่าปกติได้

ผู้ป่วยด้วยภาวะต่าง ๆ เช่น ข้อเข่าเสื่อม กลั้นปัสสาวะไม่ได้ สมองเสื่อม มีความลำบากในการลุกเข้าห้องน้ำทำให้ไม่อยากดื่มน้ำ ผู้ป่วยกลุ่มนี้ควรดื่มน้ำตามปกติ โดยอาจจัดเวลาดื่มน้ำเน้นในช่วงเวลากลางวัน และจัดสถานที่ปัสสาวะให้สะดวกมากขึ้น

น้ำแบบไหนสะอาดปลอดภัยทำให้สุขภาพดี

  • เลือกน้ำดื่มที่ใส ไม่มีสี ไม่ขุ่น ไม่มีรส และไม่มีกลิ่น
  • เลือกน้ำที่บรรจุภัณฑ์มีฝาปิดสนิท
  • ดื่มน้ำแต่พอดีประมาณ 2 ลิตร หรือดื่มน้ำวันละ 8 แก้วต่อวัน สำหรับบุคคลทั่วไป ผู้ที่มีโรคไต โรคหัวใจ หรือมีโรคประจำตัวควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลถึงปริมาณการบริโภคน้ำที่เหมาะสมกับตนเอง
  • เลือกน้ำดื่มที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากกรมอนามัย มีเครื่องหมาย อย. หรือการรับรองมาตรฐานจาก NFS

ความเชื่อเรื่องน้ำดื่ม แบบไหนผิด แบบไหนถูก

ดื่มน้ำ RO ดีต่อสุขภาพ ?

   น้ำ RO เป็นน้ำที่มีการกรองเอาเกลือแร่ส่วนเกินออกไปจนหมด และเอาพวกแบคทีเรียออกไป ซึ่งวิธีการกรองอื่น ๆ ก็เอาแบคทีเรียออกไปอยู่แล้วแต่น้ำ RO เอาเกลือแร่ออกไปจนหมด ซึ่งทำให้การที่กินน้ำปกติจะต้องได้รับแคลเซียมและแมกนีเซียมในปริมาณหนึ่ง แต่น้ำ RO จะกรองแร่ธาตุส่วนนี้จนหมด ทำให้การดื่มน้ำ RO ในระยะยาวอาจทำให้ขาดเกลือแร่บางอย่างได้

ดื่มน้ำด่าง ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง

   น้ำด่างไม่ช่วยในการป้องกันโรคมะเร็ง เนื่องจากเป็นน้ำที่เติมเกลือแร่บางอย่างเข้าไปทำให้ค่าความเป็นด่างสูงขึ้นเท่านั้น ผู้มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคไตหรือภาวะเกลือแร่ผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนพิจารณาดื่มน้ำด่างเสมอ

น้ำมนต์ ดื่มได้ไม่อันตราย ?

   ขึ้นอยู่กับว่าน้ำมนต์ที่ได้มานั้นทำมาอย่างไร เช่น น้ำมนต์บางที่อาจจะเป็นน้ำที่ทำความสะอาดและกรองมาแบบปกติ หรือน้ำดื่มบรรจุขวดมาตรฐานที่มีขายทั่วไปเพียงแค่นำมาตั้งและสวดมนต์ตามความเชื่อ สามารถดื่มได้ตามปกติ ต่างจากบางที่ที่ผลิตน้ำมนต์จากน้ำที่ผุดขึ้นมาจากบ่อดิน หรือมีการหยดสารแปลกปลอมลงไป เช่น เทียน ธูป ทำให้น้ำมีสารปนเปื้อนสารเคมี ฝุ่นผง และเชื้อโรค เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรนำไปดื่ม

 

สารปนเปื้อนที่มากับน้ำไม่สะอาด มีอะไรบ้าง

  • เหล็ก หากได้รับเข้าสู่ร่างกายในปริมาณมาก จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายทาง เช่น ระคายเคืองทางเดินอาหาร ในรายที่รุนแรงมีภาวะเลือดเป็นกรด หลอดเลือดขยายตัวทำให้ความดันเลือดลดลง การสะสมธาตุเหล็กเกินในระยะยาวส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บของตับได้
  • ปรอท เมื่อร่างกายมีปรอทสะสมอยู่ในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย หรือส่งผลร้ายแรงต่อระบบประสาท เช่น ทำให้ตาพร่ามัว มองไม่ชัด ส่งผลต่อระบบประสาทด้านอารมณ์และความจำ มีภาวะสมองเสื่อมได้
  • แมงกานีส อาจปนเปื้อนมากับน้ำดื่มที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลให้มีอาการปวดศีรษะ ระคายเคืองทางเดินอาหารในระยะยาว ส่งผลต่อการบาดเจ็บของเซลล์สมองได้
  • ทองแดง หากร่างกายมีทองแดงสะสมเกินกว่า 100 มิลลิกรัม จะส่งผลให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร อาเจียน ในรายที่รุนแรงอาจมีเม็ดเลือดแดงแตกและส่งผลถึงการทำงานของตับ
  • เชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำไม่สะอาด โดยเฉพาะเชื้อโคลิฟอร์มแบคทีเรีย เช่น เชื้ออีโคไล ซิโตรแบคเตอร์ เคลบเซลล่า หากมีเชื้อโรคเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้มีไข้ ปวดท้อง ท้องเสีย การฆ่าเชื้อโรคกลุ่มนี้สามารถทำได้โดยกระบวนการฆ่าเชื้อ เช่น การต้มน้ำ กระบวนการพาสเจอไรซ์ หรือผ่านระบบกรองน้ำที่มีระบบฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพ

   แม้ว่าน้ำเปล่าจะมีข้อดีมากมาย แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ชอบดื่มน้ำเปล่า เพราะไม่ชอบรสชาติที่จืดชืด โดยหันไปดื่มน้ำชนิดอื่นที่มีรสชาติหวานอร่อยแทน เช่น น้ำอัดลม ชานมไข่มุก ชา กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำหวาน แต่เพื่อสุขภาพที่ดีการดื่มน้ำเปล่าให้เป็นนิสัยจะเป็นหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้ร่างกายของคุณดีขึ้น

 

ข้อมูลจาก

ผศ. นพ.สหภูมิ ศรีสุมะ

สาขาวิชาเภสัชวิทยาและพิษวิทยาคลินิก ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

ขอบคุณที่มาจาก www.rama.mahidol.ac.th

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


ดื่มน้ำ ยังไง ให้เกิดผลดีต่อร่างกายดื่มน้ำยังไงให้เกิดผลดีต่อร่างกาย

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

กาฬโรคปอด Pneumonic Plague

กาฬโรคปอด Pneumonic Plague


เปิดอ่าน 18,761 ครั้ง
เซรุ่ม

เซรุ่ม


เปิดอ่าน 30,310 ครั้ง
โรคพยาธิตัวจี๊ด

โรคพยาธิตัวจี๊ด


เปิดอ่าน 35,920 ครั้ง
ยาจำพวกซัลฟา

ยาจำพวกซัลฟา


เปิดอ่าน 52,048 ครั้ง
ยาสามัญประจำบ้าน

ยาสามัญประจำบ้าน


เปิดอ่าน 26,787 ครั้ง
10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า

10 ข้อดี ฝึกโยคะตอนเช้า


เปิดอ่าน 17,432 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์

ไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกในมนุษย์

เปิดอ่าน 19,855 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
การวิ่งระยะต่าง ๆ (พลศึกษา)
เปิดอ่าน 452,054 ☕ คลิกอ่านเลย

วิธียืดเส้นก่อนออกกำลังกาย
วิธียืดเส้นก่อนออกกำลังกาย
เปิดอ่าน 29,194 ☕ คลิกอ่านเลย

เลือดกำเดาไหล
เลือดกำเดาไหล
เปิดอ่าน 18,067 ☕ คลิกอ่านเลย

ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?
ทานไข่วันละกี่ฟอง ถึงจะดี?
เปิดอ่าน 21,646 ☕ คลิกอ่านเลย

"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
"ไบโอติน" วิตามินหลากหลายประโยชน์
เปิดอ่าน 3,860 ☕ คลิกอ่านเลย

ฟุตซอล(Futsal):  กติกาข้อ 8  ระยะเวลาของการแข่งขัน
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 8 ระยะเวลาของการแข่งขัน
เปิดอ่าน 126,880 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
เปิดอ่าน 12,895 ครั้ง

ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
ระเบียบ เบิกค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปราชการ 50
เปิดอ่าน 61,559 ครั้ง

5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา
5 พฤติกรรมทำร้ายดวงตา
เปิดอ่าน 12,621 ครั้ง

พืชอเนกประสงค์
พืชอเนกประสงค์
เปิดอ่าน 28,942 ครั้ง

5 ต้นไม้ดูดสารพิษ ช่วยกรองอากาศแบบธรรมชาติ
5 ต้นไม้ดูดสารพิษ ช่วยกรองอากาศแบบธรรมชาติ
เปิดอ่าน 20,051 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ