ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ที่มา..แห่งราชินีเส้นใย...ไหม..!!


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,271 ครั้ง
ที่มา..แห่งราชินีเส้นใย...ไหม..!!

Advertisement

 ไหม ( Silkworm ) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Bombyx mori  อยู่ในวง Bombycidae  ไหมเป็นแมลงที่มีการเปลี่นแปลงรูปร่างแบบสมบูรณ์ (completely metamorphosis insect) แบ่งออกเป็น ๔ ระยะ ได้แก่ ไข่ ตัว หนอน ดักแด้ และ ผีเสื้อ  มีเพียงระยะตัวหนอนเท่านั้นที่กินอาหาร ซึ่งจะนำสารชนิดต่างๆ จากใบหม่อนไปสร้างความเจริญเติบโต  โดยผ่านการย่อย และ ดูด ซึมเป็นปริมาณ ๑ ใน ๓ ของสารอาหารทั้งหมด  ครึ่งหนึ่งของโปรตีนที่ดูด  ซึมจากใบหม่อนจะถูกนำไปใช้ผลิตสารไหม  

 

         เมื่อถึงวัย ๕ วันแรกต่อมไหม (Silk gland) จะหนักเพียง ๖.๓๖% ของน้ำหนักตัวไหม เมื่อไหมสุกก่อนเข้าทำรัง ต่อมไหมจะหนักถึง ๔๑.๙๗%  จะเห็นได้ว่าปลายวัยที่ ๕  สารอาหารโดยเฉพาะโปรตีนเกือบทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปเป็นสารที่จะชักใยทำรัง หรือ เส้นไหมนั่นเอง  และเป็นเส้นใยที่มีคุณค่ามหาศาลหาที่เปรียบไม่ได้  

 


วงจรชีวิตของไหม (ที่มา : เอกสารวิชาการหม่อนไหม. กรมส่งเสริมการเกษตร)

         หลังจากมีการคัดเลือกปรับปรุงพันธุ์ไหมมากว่า ๒,๐๐๐ ปี  ทำให้หนอนไหมและผีเสื้อสูญเสียคุณลักษณะเดิมไปหมดแล้ว  ทำให้การเลี้ยงและการจัดการสะดวกสบายขึ้น  ทุกวันนี้เส้นใยไหม นอกจากจะใช้เป็นแพรภัณฑ์แล้วยังนำประโยชน์ด้านอื่นๆมากมายหลายอย่าง  เช่นเดียวกับหนอนไหมและดักแด้อีกด้วย



         ๑.  สิ่งทอ  ไหมเป็นสิ่งทอที่ล้ำค่ามากกว่าสิ่งของอื่น ๆ จนได้รับสมญานามว่า "ราชินีแห่งเส้นใย" แม้ไหมจะมีข้อเสียคือ ยืดหยุ่นได้น้อย ยับง่าย ซักยากแต่ข้อเสียเหล่านี้ก็ได้กำจัดหรือทำให้ลดน้อยลงไปโดยการใช้สารเคมีหลายชนิด  ในกระบวนการผลิตเพื่อทำให้ผ้าไหมซักง่ายขึ้น  ลดการยับและลดการทำให้ผ้าเหลืองลงได้  

         ยังมีการพัฒนาเส้นไหมดิบให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น  โดยการตีเกลียวเส้นไหมในทิศทางกลับกันและถี่ขึ้น ใช้เส้นใยที่มีขนาดใหญ่  เส้นใยชนิดนี้จะมีคุณสมบัติทางเคมีและฟิสิกส์ดี  กำจัดข้อเสียต่าง ๆ ออกได้   ด้วยความเป็นเส้นใยที่ได้จากสัตว์ไหม จึงได้เปรียบเหนือกว่าฝ้าย  

        ไหมมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในการระบายอากาศดูดซับความร้อน ทำให้ร่างกายสบายมีการดูดซับน้ำและระบายความชื้นได้ดี  สามารถดูดซับน้ำได้มากกว่าฝ้าย ๑.๕ เท่า แต่ระบายความชื้นได้เร็วกว่า ๕๐% และดูดซับความร้อนไว้ที่เนื้อผ้าได้สูงกว่า ๑๓ - ๒๑%   

         ปกติอุณหภูมิของร่างกายบริเวณเต้านม และต้นขา ประมาณ ๓๓.๓๓๓๔.๒  เมื่อสวมใส่ชุดผ้าไหมจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายบริเวณดังกล่าวลดลงเหลือ ๓๑ - ๓๓ ดังนั้น จึงทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกอบอุ่นในฤดูหนาวแต่จะเย็นสบายในฤดูร้อน ไม่เหนียวเหนอะหนะเวลาสวมใส่ผ้าไหม



         ๒.  เครื่องสำอาง  "Silk Fibroin" เป็นเลิศแห่งมอยซ์เจอไรเซอร์ที่สามารถให้ความชุ่มชื้นสูงถึง ๓๐๐ เท่า ของน้ำหนักเป็นโปรตีนสกัดจากไหม  ที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับผิวหนังด้วยกระบวนการทางชีวเคมีดุจเดียวกับธรรมชาติผิว  นั่นเป็นสรรพคุณของไหมที่บริษัทเครื่องสำอางแห่งหนึ่งที่ผลิตครีมบำรุงความชื้นผิวจากโปรตีนไหมกล่าวถึง  

         ไหมนอกจากจะครองความเป็นเลิศในเรื่องของเส้นในแล้วยังเป็นวัสดุ ที่มีคุณค่า เมื่อนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนา เนื่องจากเส้นใยไหม ส่วนใหญ่ (๙๐%) เป็นโปรตีนที่มีความใกล้เคียงกับโปรตีนที่พบในร่างกายมนุษย์  ซึ่งยากยิ่งที่สารสังเคราะห์อื่นใดจะทำได้เสมอเหมือน  

         โปรตีนจากเส้นไหมประกอบด้วย Fibroin และ Sericin แต่เซริซิน จะถูกความร้อนชะล้างออกไปเมื่อต้มรังในการสาวไหมเพราะเป็นกาวเหนียว  มีเพียงไฟโบรอินที่ใช้ทำเป็นเส้นใย ดังนั้น งานวิจัยจึงมุ่งเน้นไปที่การใช้ประโยชน์จากไฟโบรอิน เมื่อ ๖๐ ปีก่อน  บริษัทเครื่องสำอาง คาเนโบ้ แห่งประเทศญี่ปุ่น ได้นำไฟโบรอินมาหลอมให้อยู่ในรูปของสารละลายก่อนที่จะทำเป็นผงและครีม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง  

         อันดับแรกที่ทำจากไหมโดยใช้เป็นเครื่องแต่งหน้าให้กับผู้แสดงละคร Kabuki ที่จำเป็นต้องพอกหน้าด้วยเครื่องสำอางอย่างมาก  ทำให้ผู้แสดงรู้สึกสบายผิวมากขึ้น  นอกจากนั้นเมื่อต้องแสดงกลางแจ้งก็สามารถป้องกันอันตรายจากแสงอุลตราไวโอเลท (UV light) และที่สำคัญเครื่องสำอางชนิดนี้เข้ากับผิวหน้าได้ดีกว่าชนิดอื่น  

         ต่อมาบริษัทได้ผลิต Silk polymer ที่ทำจากไฟโบรอิน เพื่อใช้ในวงการเสริมสวยโดยมีสรรพคุณในการป้องกันเส้นผมเสียในขณะตกแต่งหรือเปลี่ยนทรงผมปัจจุบัน ครีมรองพื้น ครีมแต่งหน้า และครีมทำความสะอาด จะมีไฟโบรอินจากไหมเป็นส่วนผสม  ญี่ปุ่นประเทศเดียว มีการใช้ไหมทำเครื่องสำอางถึงปีละ ๕๖ ตัน



         ๓.  การแพทย์   เป็นที่ทราบกันดีว่าไหมใช้เป็นเส้นด้ายในการเย็บแผลผ่าตัด นอกจากเหนียว ทนต่อการเข้าทำลายของจุลินทรีย์แล้ว  ยังเข้ากับเนื้อเยื่อของมนุษย์ได้ดี คุณสมบัติของไหมเหล่านี้จึงเป็นประโยชน์ต่อวงการแพทย์อย่างมากในการที่จะหลอมเส้นไหมแล้วทำให้เป็นแผ่นหรือเป็นหลอด  

         ก่อนที่จะเป็นผิวหนังเทียม ท่อต่อเส้นเลือดเทียม  คอนแท็กเลนซ์  แม้ว่าอุปกรเหล่านี้จะทำได้ด้วยพลาสติก แต่ก็ถูกต่อต้านจากร่างกายสูง  ได้มีความพยายามที่จะผลิตสารดูดซับ (Absorbant polymers) และสารช่วยย่อย (Silk peptides) ที่จะใช้ทางการแพทย์และการอาหารจากสารละลายไฟโบรอิน  

         เมื่อเร็วๆนี้ พบว่ากรดอมิโนที่พบในไฟโบรอินคือ Glycine จะช่วยให้คลอเรสเตอรอล และระดับน้ำตาลในเลือต่ำ และ Alanine จะช่วยตับทำงาน เช่น ช่วยให้อาการเมาค้างกลับสู่สภาวะปกติได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกัน serine จะกระตุ้นการทำงานของสองในผู้สูงอายุ   ไหมได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์มาขึ้นเรื่อยๆ จนได้รับการขนานนามอีกอย่างหนึ่งว่า  " เส้นใยสุขภาพ " (Health Fiber)

 

 

 

 



         ๔.  สบู่และเทียนไข  ไขจากดักแด้ไหมสามารถนำมาผลิตสบู่และเทียนไขที่มีคุณภาพสูง  ญี่ปุ่นและอิตาลีเป็นประเทศที่ผลิตสบู่และเทียนไขคุณภาพสูงจากไขดักแด้ไหมมากเป็นดันดับ ๑ และ ๒ ไขมันที่สกัดจะนำไปผ่านขบวนการเพิ่มไฮโดรเจน (Hydrogenntion) จะได้ไจสีขาว (Whit oil) คือ Stearic acid (CH3)(CH2)16COOH  ซึ่งเป็นวัตถุดิบซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสบู่และเทียนไขคุณภาพสูง 

 

         ๕.  ผงซักฟอก   ไฟโบรอินจากไหม ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตผงซักฟอกที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถเคลื่อนย้ายสิ่งสกปรกได้ดี เพราะมีส่วนช่วยกระตุ้นปฏิกิริยาเคมี 

 

         ๖.  ดอกไม้ประดิษฐ์  รังไหมที่ผ่าเอาดักแด้ออกแล้ว สามารถนำมาประดิษฐ์ดอกไม้ได้หลากชนิด ดอกทิวลิป ดอกบัว ดอกเฟื่องฟ้า ดอกทานตะวัน ดอกเยอเบรา ดอกกุหลาบ หรือประดิษฐ์เป็นรูปสัตว์ต่างๆ เช่น นก หนู หรืออื่นๆ ใช้ประดับในรถ ในอาคาร ในบ้าน นอกจากจะสวยงามแล้วยังสะดุดตาผู้พบเห็นทั่วไปอีกด้วย

 

 


การประดิษฐ์ตุ๊กตาครอบครัวรังไหม

         ๗.  อาหารมนุษย์   มนุษย์รู้จักบริโภคดักแด้จากหนอนไหมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ปรากฏ  แต่ชาวไทยที่เคยเลี้ยงไหม หรือ สาวไหม  ล้วนแล้วแต่รูจักการบริโภคดักแด้ที่อยู่ในรังไหมเป็นอย่างดี เมื่อต้มรังไหมและสาวไหมจนหมดเส้นใย ก็มักจะลอกเปลือกรังชั้นในนำดักแด้ที่สุกแล้วมาบริโภค หรือนำไปคั่วก็อร่อยไปอีกแบบ  

         หรือจะนำไปปรุงอาหารชนิดอื่นๆก็ได้ เช่น ทอดกับไข่ ผัดใบกระเพรา ตลาดในภาคอีสานจะมีดักแด้ขายตามฤดูการเลี้ยง ราคากิโลกรัมละหลายบาท  ในกรุงเทพฯ หาได้ทั่วไปครับ  ที่แน่ๆ ตลาดนัดจตุจักร และตลาดปลาซันเดย์  ชาวญี่ปุ่นก็บริโภคดักแด้ไหมที่ปรุงแล้วเช่นเดียวกับชาวจีน เกาหลี อินเดีย และ พม่า  แถมยังมีจำหน่ายในซูเปอร์มาเก็ตบางแห่งอีกด้วย  ดักแด้ไหมมีโปรตีนและเกลือแร่หลายชนิด  มีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าปลาและสัตว์ต่าง ๆ  ยังอุดมไปด้วยวิตามินบี๑ และ บี๒ ดักแด้แห้งจะมีโปรตีนสูงถึง ๔๘.๙๘%


 

 

ขอบคุณที่มาข้อมูล

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 23 พ.ค. 2552


ที่มา..แห่งราชินีเส้นใย...ไหม..!!

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ตำนานขนมครก... !!

ตำนานขนมครก... !!


เปิดอ่าน 6,410 ครั้ง
ก่อนที่จะสายเกินไป  ....

ก่อนที่จะสายเกินไป ....


เปิดอ่าน 6,254 ครั้ง
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(2)

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(2)


เปิดอ่าน 6,260 ครั้ง
ศิลปะของการทำงานที่ดี

ศิลปะของการทำงานที่ดี


เปิดอ่าน 6,252 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เผยแพร่ผลงานวิชาการ

เผยแพร่ผลงานวิชาการ

เปิดอ่าน 6,260 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(35)
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(35)
เปิดอ่าน 6,265 ☕ คลิกอ่านเลย

 ย้อนรอย..ไข้หวัดใหญ่ แห่งประวัติศาสตร์(โลก)
ย้อนรอย..ไข้หวัดใหญ่ แห่งประวัติศาสตร์(โลก)
เปิดอ่าน 6,261 ☕ คลิกอ่านเลย

>>>....ผมนำภาพเอนิเมชั่นเคลื่อนไหวมาฝากทุกคนครับ...!!!
>>>....ผมนำภาพเอนิเมชั่นเคลื่อนไหวมาฝากทุกคนครับ...!!!
เปิดอ่าน 6,259 ☕ คลิกอ่านเลย

ปัญหาคาใจ
ปัญหาคาใจ
เปิดอ่าน 6,264 ☕ คลิกอ่านเลย

  น้ำกลั่น....กินได้ไหม
น้ำกลั่น....กินได้ไหม
เปิดอ่าน 6,465 ☕ คลิกอ่านเลย

เอามาให้ดู...
เอามาให้ดู...
เปิดอ่าน 6,267 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
คีเลชั่น (Chelation) คืออะไร
เปิดอ่าน 15,358 ครั้ง

แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน
แสงสว่างของหิ่งห้อยมาจากไหน
เปิดอ่าน 13,576 ครั้ง

เสริมสร้างทักษะให้ลูกน้อยไปกับ 3 กิจกรรมพัฒนา EF
เสริมสร้างทักษะให้ลูกน้อยไปกับ 3 กิจกรรมพัฒนา EF
เปิดอ่าน 12,790 ครั้ง

ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่
ปลูกข่าข้างบ่อปลา สร้างรายได้ถึง 400,000 บาท/ไร่
เปิดอ่าน 24,465 ครั้ง

อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
อะแคนทะมีบา ภัย คอนแทคเลนส์
เปิดอ่าน 9,729 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ