ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

4 เรื่องสุขภาพที่น่าสนใจ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,409 ครั้ง
4  เรื่องสุขภาพที่น่าสนใจ

Advertisement

❝ 4 เรื่องสุขภาพที่ควรรู้ ทำอย่างไรจึงจะอายุ ยืน คำตอบคือกินสายกลาง กินสายกลางคือกินมื้อเช้าและ มื้อเที่ยง งด มื้อเย็น เปรียบตัวเราเป็นรถ ยนต์ ตื่นเช้ามาต้องเติมน้ำมัน ก่อน หรือกินมื้อเช้า รถจึงจะวิ่งได้ ถึงเที่ยงน้ำมันยังไม่ หมด เติมอีกครั้ง ถึงเย็นก่อนนอนก็ยังไม่หมดพิสูจน์ได้ดังนี้ สมมุติกินไข่ลวก 1 ฟอง โตๆ มีไข่แดงหนัก 50 กรัม ในไข่แดงมีคลอเลสเตอรอล 1 กรัม ให้พลังงาน 9 แคลอรี่ ฉะนั้น 50 กรัม ให้พลังงาน 450 แค ลอรี่ จะต้องออกกำลังกายเพื่อใช้พลังงาน นี้ โดยขี่จักรยานตั้งแรงต้านไว้ 1.3 ก.ก. ความเร็วที่ ปั่นบันไดจักรยาน 60 รอบต่อนาที ขี่อยู่นาน60 นาที จะเหนื่อยหอบ เหงื่อไหลท่วมตัว แต่ใช้พลังงานไปเพียง 300 แค ลอรี่ ไข่ใบเดียวใช้ไม่หมด ฉะนั้นถ้ากินมื้อเช้า มื้อเที่ยง จนถึงเย็น พลังงานยังเหลือแน่นอน ไม่จำ เป็นต้องไปเติมอีก เพราะเวลานอนร่างกายจะนำพลังงาน ที่เหลือใช้ไปเก็บในที่ต่างๆ โดยตับเป็นผู้ทำงาน นี้ ถ้าพลังงานเหลือมาก การเอาไปเก็บในที่ต่างๆก็มาก ทำให้ อ้วน และแน่นอนถ้าเก็บไม่หมดโดยเฉพาะพวกไขมันตัวโตๆ จะ ต้องค้างอยู่ในหลอดเลือด ถ้าค้างสะสมมาก เท่าใด รูหลอดเลือดก็จะเล็กลงทุกวัน เลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้น้อยลง อวัยวะทั้งหลายก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นหรือแก่เร็ว ขึ้น ถ้าวันไหนอุดตัน เช่นถ้าตันที่สมอง จะกลายเป็นคนพิการอัมพาต ครึ่งซีก ถ้าอุดตันที่ไต ต้องล้างไต เปลี่ยนไต ถ้าตันที่ขา อาจต้องตัดขาทิ้ง ถ้าตันที่กล้าม เนื้อหัวใจ ก็จะไม่มีโอกาสได้สั่งลาใคร ฉะนั้นการกินมื้อเย็นจึงเป็นมื้อที่เร่งกระบวนการเสื่อม ถึงเสียชีวิตให้เร็วขึ้นไปอีก มื้อเย็นจึงเป็นมื้อ อันตราย เป็นมื้อตายผ่อนส่ง ยิ่งกินมื้อเย็นมาก ยิ่งผ่อนส่งมาก ตายเร็ว ถ้าไม่กินมื้อ เย็น ก็จะแก่ช้า เสื่อม ช้า อายุยืน การไม่กินอาหารมื้อเย็นเป็นเรื่องที่ต้องเอาชนะใจตัว เองอย่างมาก ถ้าใครทำได้จะตัดทั้งกิเลส สุขภาพดี อายุยืน และมีสมาธิดี ความมุ่ง มั่นสูง ได้ประโยชน์ทั้งกายและใจ แต่ท่านต้องฝึกกระเพาะให้เกิดความเคยชิน วิธีฝึกมี 4 วิธี 1. ค่อยๆลดปริมาณอาหารมื้อ เย็น ทีละน้อยๆเช่นลดกินข้าวจาก 2 จาน เหลือ1 1/2 จาน สัก 3-4 เดือน โดยมีข้อแม้ ว่า หลังอาหาร เย็นแล้วห้ามกินอาหารใดๆทั้งนั้นยกเว้นน้ำ เปล่า พอกระ เพาะชินแล้วลดเหลือ 1 จาน ต่อ ไปครึ่งจาน ต่อไปไม่กินข้าวเลยกินแต่กับ ต่อไปกินผักผลไม้ สุดท้ายงดอาหาร เย็น 2. ร่นเวลากินอาหาร เย็น เช่นจาก 2 ทุ่ม มากิน 1 ทุ่ม ต่อไปเลื่อน เป็น 6 โมงเย็น 5 โมง เย็น 4 โมงเย็น 3 โมง เย็น ฯ 3. กินเม็ดแมงลักแทนมื้อ เย็น ใช้เม็ดแมงลัก 2 ช้อนโต๊ะใส่ในถ้วย น้ำแกงหรือน้ำเปล่าคนแล้วดื่มทันที ดื่มน้ำตาม อีก 4-5 แก้ว 4. กินมังสะวิรัตมื้อ เย็น การกินผักผลไม้ถือว่าเป็นอาหารไม่มีพิษ ร่างกาย จะได้พักไม่ต้องทำลายพิษของอาหารเนื้อสัตว์ พิษที่สะสมไว้ก่อนก็จะถูกตับ ไต กำจัดหมดไปเองได้ ร่างกายมีเวลาถึง 18 ช.ม. กำจัดพิษที่ติดมากับมื้อ เช้า มื้อเที่ยงได้ทัน ฉะนั้นการไม่กินอาหารเย็น จึงเป็นเวลาที่ตับ ไต จะสามารถกำจัดสารพิษจากอาหารมื้อเช้า และเที่ยงได้หมด ร่างกายจึงบริสุทธิ์ทุก วัน ท่านทราบแล้วใช่ใหมว่า ทำไมสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรง บัญญัติให้พระฉันเพียง 2 มื้อ คือ เช้า กับ เพล ❞

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 2278 วันที่ 29 ส.ค. 2552


4 เรื่องสุขภาพที่น่าสนใจ4เรื่องสุขภาพที่น่าสนใจ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

มุขจีบสาว.....น้ำเน่า

มุขจีบสาว.....น้ำเน่า


เปิดอ่าน 6,513 ครั้ง
ถนนเห่งความรัก

ถนนเห่งความรัก


เปิดอ่าน 6,413 ครั้ง
ครูอาชีวะ

ครูอาชีวะ


เปิดอ่าน 6,430 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ทายนิสัย...อีกแล้ว

ทายนิสัย...อีกแล้ว

เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ใส่รองเท้าแตะพลาสติกเสี่ยงเป็นมะเร็ง
ใส่รองเท้าแตะพลาสติกเสี่ยงเป็นมะเร็ง
เปิดอ่าน 6,427 ☕ คลิกอ่านเลย

ก้าวพ้นความกลัว ด้วยตัวคุณเอง
ก้าวพ้นความกลัว ด้วยตัวคุณเอง
เปิดอ่าน 6,405 ☕ คลิกอ่านเลย

การปล่อยวาง หลวงปู่ชา สุภัทโท
การปล่อยวาง หลวงปู่ชา สุภัทโท
เปิดอ่าน 6,443 ☕ คลิกอ่านเลย

เครื่องดื่มสมุนไพร....สูตรการทำน้ำดอกอัญชัน....และพันช์น้ำดอกอัญชัน
เครื่องดื่มสมุนไพร....สูตรการทำน้ำดอกอัญชัน....และพันช์น้ำดอกอัญชัน
เปิดอ่าน 6,418 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำใจให้สบายๆ
ทำใจให้สบายๆ
เปิดอ่าน 6,419 ☕ คลิกอ่านเลย

16 กันยายน ....วันโอโซนโลก จากปฏิทินสิ่งแวดล้อม
16 กันยายน ....วันโอโซนโลก จากปฏิทินสิ่งแวดล้อม
เปิดอ่าน 6,422 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เปิดอ่าน 12,920 ครั้ง

เหรียญกล้าหาญ
เหรียญกล้าหาญ
เปิดอ่าน 19,425 ครั้ง

"วาสนา" ดีจากไหน ลองดูที่ "เส้นวาสนา" จากลายมือกัน
"วาสนา" ดีจากไหน ลองดูที่ "เส้นวาสนา" จากลายมือกัน
เปิดอ่าน 31,674 ครั้ง

ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
ยืดอายุหนูได้เท่าอายุคน125ปี อาจจะนำวิธีการมา ใช้กับมนุษย์
เปิดอ่าน 13,390 ครั้ง

น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
น้องซีที หุ่นยนต์ เสิร์ฟอาหาร สัญชาติไทย
เปิดอ่าน 10,959 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ