ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก
ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?
ความรู้ทั่วไป 9 ก.ค. 2553 เปิดอ่าน : 13,836 ครั้ง
☰แชร์เลย >  
เพิ่มเพื่อน
Advertisement

ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?
Advertisement

แดดที่แผดเผากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 ทำให้พลิกคำพยากรณ์ที่ระบุว่า วันที่ 27 เมษายน จะเป็นวันที่ร้อนที่สุดของกรุงเทพฯ เพราะมีอุณหภูมิที่วัดได้จากสถานีบางนาเพียง 36 องศาเซลเซียส

จันทร์ที่ 10 พฤษภาคม ที่ร้อนระอุนั้นมีอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 39.7 องศา จึงเป็นวันที่ร้อนที่สุดในปีนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ "ฮีทเวฟ" หรือ "คลื่นความร้อน" และล่าสุดมีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 20 ราย

“ประวิทย์ แจ่มปัญญา” ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กรมอุตุนิยมวิทยา อธิบายถึงความร้อนที่ระอุแผ่คลุมทั่วไทยมาอย่างต่อเนื่องหลายวันว่า ปกติช่วงเดือนเมษายน จะมีฝนตกเป็นระยะๆ อากาศจะร้อนอยู่ประมาณ 4-5 วัน จากนั้นฝนจะตกสลับกันให้คลายร้อน แต่หน้าร้อนปีนี้ ฝนตกน้อยมากทำให้เกิดความร้อนสะสม โดยเฉพาะช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาฝนขาดหายไป หรือมีฝนเป็นหย่อมๆ ในพื้นที่ไม่กว้างนัก ทำให้ชั้นอากาศมีความชื้นสูง จึงรู้สึกร้อนอบอ้าวผิดปกติกว่าทุกปี ยิ่งความชื้นในอากาศสูงมากเท่าไร มนุษย์จะยิ่งร้อนอึด อัดมากขึ้นเท่านั้น ช่วงนี้ความชื้นในอากาศรอบกรุงเทพฯ ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าหน้าหนาวที่มีความชื้นเพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

"ปีนี้จังหวัดร้อนที่สุดคือแพร่และลำปาง ประมาณ 43 องศา ส่วนกรุงเทพฯ วันที่ร้อนสุด คือ 10 พฤษภาคม อุณหภูมิ 39.7 องศา ตามสถิติที่ผ่านมา จ.ตากเคยมีอุณหภูมิสูงสุดคือ 43.5 องศา เชื่อว่าปัจจัยสำคัญคือความชื้นในอากาศสูง ความร้อนสะสมหลายวัน ประกอบกับฝนไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้อากาศร้อนมาก แต่นับจากวันนี้ไปความร้อนจะลดลง เพราะวันอังคารที่ผ่านมาภาคอีสานเริ่มมีฝนรวมถึงภาคเหนือเป็นการเข้าสู่ฤดูฝนตามปกติ" ผอ.ส่วนพยากรณ์อากาศกลางอธิบาย

นอกจากคำพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว นักวิชาการบางรายเชื่อว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับปรากฏการณ์คลื่นความร้อน หรือ "ฮีทเวฟ" ทำให้คนทั่วโลกล้มตายปีละหลายร้อยคน โดยเฉพาะในอินเดียมีรายงานว่าช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา อุณหภูมิความร้อนพุ่งถึง 44 องศา สูงสุดในรอบ 52 ปี ชาวอินเดียอย่างน้อย 80 คน เสียชีวิตจากคลื่นความร้อน

คลื่นความร้อน หรือ "ฮีทเวฟ" (Heat wave) หมายถึงอากาศร้อนจัดที่สะสมอยู่พื้นที่บริเวณหนึ่ง แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ "แบบสะสมความร้อน" เกิดในพื้นที่ซึ่งสะสมความร้อนเป็นเวลานาน อากาศแห้ง ลมนิ่ง ทำให้ความร้อนจากแสงอาทิตย์ไม่เคลื่อนที่ เมื่ออุณหภูมิร้อนสะสมหลายวันจะเกิดคลื่นความร้อนมากขึ้นเช่น หากพื้นที่ไหนมีอุณหภูมิ 38-41 องศา แล้วไม่มีลมพัดต่อเนื่อง 3-6 วัน ไอร้อนจะสะสมจนกลายเป็นคลื่นความร้อน มักเกิดในประเทศอินเดีย แอฟริกา ออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ ฯลฯ

ชนิดที่ 2 คือ “แบบพัดพาความร้อน” มักเกิดขึ้นแถวทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คลื่นความร้อนชนิดนี้เกิดจากลมแรงหอบความร้อนจากทะเลทรายขึ้นไปในเขตหนาว มักเกิดในยุโรป แคนาดาตอนใต้ ฯลฯ

 




คำถามคือประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?

นายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยืนยันว่า ประเทศไทยไม่มีโอกาสเกิดคลื่นความร้อนหรือฮีทเวฟ เนื่องจากไม่ได้ตั้งอยู่ในพื้นที่มีมวลอากาศร้อนจัด ประกอบกับไม่มีทะเลทรายเหมือนอินเดียหรือออสเตรเลีย นอกจากนี้ฮีทเวฟจะเกิดได้ก็ต่อเมื่ออุณหภูมิร้อนเกิน 40 องศาต่อเนื่องกันหลายสัปดาห์ แต่สภาพอากาศของไทยมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาทุก 7-10 วัน ทำให้เกิดฝนตก ช่วยลดอุณหภูมิไม่ให้ไต่ระดับสูงถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

ปีนี้อากาศร้อนขึ้น เนื่องจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ที่ทำให้เกิดความแห้งแล้ง จากสถิติอุณหภูมิสูงสุดในรอบ 57 ปี ของไทย พบว่า หน้าร้อนมีอุณหภูมิเฉลี่ย 42-43 องศา ยังไม่เคยมีอุณหภูมิสูงถึงระดับ 46-47 องศา

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกร้อน ยืนยันว่าฤดูร้อนปีนี้ของไทยไม่ธรรมดา อาจเรียกว่าเป็น "ปรากฏการณ์ฮีทเวฟ"

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ วิเคราะห์ว่า สภาพอากาศของไทยช่วงนี้มีความแปรปรวนสูง โดยเฉพาะอากาศร้อนจัด ที่มีแนวโน้มจะร้อนขึ้นไปอีก ซึ่งเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง เพราะอุณหภูมิสูงติดต่อกันเกิน 3 วันขึ้นไป ตามหลักวิชาการจะทำให้เกิดคลื่นความร้อน คนที่ได้รับคลื่นความร้อนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็กเล็ก ที่ผ่านมามีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนบ้างแล้ว และหากสภาพอากาศยังเป็นไปในลักษณะนี้ยาวไปถึงปีหน้า ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยมากขึ้น

ดร.สมิทธวิเคราะห์ว่า ตามรายงานมีผู้เสียชีวิตจากความร้อนแล้ว 15 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงในประวัติการณ์ หน่วยงานราชการยังไม่เคยเจอกับภาวะฉุกเฉินเช่นนี้มาก่อน จึงขอฝากบอกไปยังกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้รีบออกประกาศเตือนภัย เพราะหากปรับสภาพร่างกายไม่ทันอาจทำให้หัวใจวายและเสียชีวิตในที่สุด

นักวิชาการจากกรมอุตุนิยมวิทยารายหนึ่งสรุปว่า ความคิดเห็นเรื่อง "ฮีทเวฟ" ที่แตกเป็น 2 ฝ่ายนั้น สืบเนื่องจากประเทศไทยไม่เคยมีนิยามคำว่า “คลื่นความร้อน” หรือ "ฮีทเวฟ" มาก่อน ในต่างประเทศจะมีการจำกัดความตามสภาพอากาศท้องถิ่น เช่น อังกฤษ จะระบุว่าหากอากาศร้อนถึง 32 องศาติดต่อกัน 5 วัน และความชื้นในอากาศสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ให้ถือว่าพื้นที่นั้นเป็นฮีทเวฟ ส่วนออสเตรเลียเป็นพื้นที่ทะเลทรายอาจกำหนดให้มีอุณหภูมิ 40 องศาขึ้นไป

“หากดูตามนิยามของอังกฤษ ประเมินได้ว่าหน้าร้อนของ ไทยปีนี้บางพื้นที่มีปรากฏการณ์ ฮีทเวฟ เช่น ในกรุงเทพฯ เพราะอุณหภูมิสูงเกิน 32 องศาต่อเนื่องหลายวันและความชื้นก็สูงเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ อยากเสนอว่าประเทศไทยอาจต้องให้นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญมาช่วยกันนิยามคำ ว่า คลื่นความร้อน เพื่อที่อนาคตจะได้เตือนภัยได้อย่างถูกต้อง”


ที่มา คมชัดลึก


Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"

ลายมือของคนที่มีเงินทองอยู่ตลอดเวลาต้องมี "ก้นหอยมหาเศรษฐี"
เปิดอ่าน 27,110 ครั้ง
ท็อป 10 ยอดศิลปินของตลาดโลก

ท็อป 10 ยอดศิลปินของตลาดโลก
เปิดอ่าน 11,756 ครั้ง
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก

1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
เปิดอ่าน 9,650 ครั้ง
รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี

รู้ยัง ! กรมขนส่งขยายเวลาใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว จาก 1 ปี เป็น 2 ปี
เปิดอ่าน 18,524 ครั้ง
สาเหตุของความดันโลหิตสูงที่คาดไม่ถึง

สาเหตุของความดันโลหิตสูงที่คาดไม่ถึง
เปิดอ่าน 15,155 ครั้ง
คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!

คุณเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบจอดรถใต้ต้นไม้ เพื่อไม่ให้รถร้อน ลองอ่านบทความนี้ดู !!
เปิดอ่าน 21,026 ครั้ง
ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว

ต้นทองอุไร ไม้ดอกมงคล ปลูกง่าย โตไว
เปิดอ่าน 2,488 ครั้ง
ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก

ไขข้อข้องใจ ไข้หวัดใหญ่พันธุ์ใหม่ ลามทั่วโลก
เปิดอ่าน 8,817 ครั้ง
ข้อคิดจากเศรษฐีในประเทศไทย

ข้อคิดจากเศรษฐีในประเทศไทย
เปิดอ่าน 10,738 ครั้ง
มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย

มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ปี 58 ใน 7 สาขา 32 รายการ มีอะไรบ้าง คลิกเลย
เปิดอ่าน 22,755 ครั้ง
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก

เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เปิดอ่าน 12,994 ครั้ง
หลัก 10 ประการ ช่วยให้นอนหลับ

หลัก 10 ประการ ช่วยให้นอนหลับ
เปิดอ่าน 28,352 ครั้ง
รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน

รวยๆ เฮงๆ กับของมงคลรับวันตรุษจีน
เปิดอ่าน 20,637 ครั้ง
เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน

เผยวิธีหุงข้าว ที่กินแล้วไม่อ้วน
เปิดอ่าน 17,773 ครั้ง
ดูแลสุขภาพแบบไทย

ดูแลสุขภาพแบบไทย
เปิดอ่าน 13,210 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ
กิน"กระเทียม"ดีต่อสุขภาพหัวใจ
เปิดอ่าน 10,053 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
พระคุณแม่  (ตอนที่ 1)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 1)
เปิดอ่าน 12,273 ☕ คลิกอ่านเลย

วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
วิจัย พบ ชายศีรษะล้านมีโอกาสก้าวหน้าในการงานและธุรกิจมากกว่า
เปิดอ่าน 10,386 ☕ คลิกอ่านเลย

ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด
ตกแต่งบ้าน ตามราศีเกิด
เปิดอ่าน 10,272 ☕ คลิกอ่านเลย

“ใบมะกรูด” แก้ความดันโลหิตสูง
“ใบมะกรูด” แก้ความดันโลหิตสูง
เปิดอ่าน 36,499 ☕ คลิกอ่านเลย

Google "ค้นหา" ข้อมูลเก่งขึ้น
Google "ค้นหา" ข้อมูลเก่งขึ้น
เปิดอ่าน 9,072 ☕ คลิกอ่านเลย

5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี
5 สไตล์การกินเพื่อสุขภาพดี
เปิดอ่าน 11,191 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดี
เปิดอ่าน 20,580 ครั้ง

อะไร? อยู่ใน Wi-Fi
อะไร? อยู่ใน Wi-Fi
เปิดอ่าน 12,651 ครั้ง

อาชีพเสริมข้าราชการ ปลูกต้นอ่อนผักบุ้ง ขายช่วงวันหยุด สร้างรายได้งาม
อาชีพเสริมข้าราชการ ปลูกต้นอ่อนผักบุ้ง ขายช่วงวันหยุด สร้างรายได้งาม
เปิดอ่าน 45,027 ครั้ง

9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
9 วิธีเด็ด แก้หลับเวลากวดวิชา
เปิดอ่าน 11,481 ครั้ง

ร่างกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาร้องทุกข์
ร่างกฎ ก.ค.ศ.ว่าด้วยการร้องทุกข์และการพิจารณาร้องทุกข์
เปิดอ่าน 14,418 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย


เว็บไซต์ที่น่าสนใจ

  • IELTS Test
  • SAT Test
  • สอบ IELTS
  • สอบ TOEIC
  • สอบ SAT
  • เว็บไซต์พันธมิตร

  • IELTS
  • TOEIC Online
  • chulatutor
  • เพลงเด็กอนุบาล
  •  
    หมวดหมู่เนื้อหา
    เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


    · Technology
    · บทความเทคโนโลยีการศึกษา
    · e-Learning
    · Graphics & Multimedia
    · OpenSource & Freeware
    · ซอฟต์แวร์แนะนำ
    · การถ่ายภาพ
    · Hot Issue
    · Research Library
    · Questions in ETC
    · แวดวงนักเทคโนฯ

    · ความรู้ทั่วไป
    · คณิตศาสตร์
    · วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    · ภาษาต่างประเทศ
    · ภาษาไทย
    · สุขศึกษาและพลศึกษา
    · สังคมศึกษา ศาสนาฯ
    · ศิลปศึกษาและดนตรี
    · การงานอาชีพ

    · ข่าวการศึกษา
    · ข่าวตามกระแสสังคม
    · งาน/บริการสังคม
    · คลิปวิดีโอยอดนิยม
    · เกมส์
    · เกมส์ฝึกสมอง

    · ทฤษฎีทางการศึกษา
    · บทความการศึกษา
    · การวิจัยทางการศึกษา
    · คุณครูควรรู้ไว้
    · เตรียมประเมินวิทยฐานะ
    · ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
    · เครื่องมือสำหรับครู

    ครูบ้านนอกดอทคอม

    เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

          kroobannok.com

    © 2000-2020 Kroobannok.com  
    All rights reserved.


    Design by : kroobannok.com


    ครูบ้านนอกดอทคอม
    การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

    วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
     

    ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

    เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

    Email : kornkham@hotmail.com
    Tel : 081-3431047

    สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
    คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ