ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กินเร็วอ้วนเร็ว กินช้าอ้วนช้า


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,536 ครั้ง
Advertisement

กินเร็วอ้วนเร็ว กินช้าอ้วนช้า

Advertisement

 
 

 

กินเร็วอ้วนเร็ว กินช้าอ้วนช้า

 

สังคมอเมริกันมีคนอ้วน มากมายเหลือเกินไปที่ไหนก็เจอแต่คนอ้วนเต็มถนนไปหมด เขาว่าคนอเมริกันอ้วนขนาดเป็นโรคอ้วนเกินร้อยละ 20 เข้าไปแล้ว

คนอเมริกันขยายทางส่วนกว้างมากขึ้น แต่ละคนเจ้า
เนื้อทั้งหญิงทั้งชายเด็กเล็กๆ เอง ก็ไม่เว้น เริ่มอ้วนกันตั้งแต่เด็กยังไม่ทันโตหากอ้วนได้อย่างนั้นบอกได้เลยว่า ออกจะลดยากอยู่สักหน่อย เด็กๆ หากอ้วนแล้วเซลล์ไขมันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นคิดอยากจะลด ก็คงลดได้แค่ขนาดของเซลล์ จำนวนเซลล์คงลดไม่ได้ เผลอหน่อยเดียวเซลล์ที่ลดขนาดลง ก็อ้วนขึ้นได้อีก เด็กอ้วนจึงลดความอ้วนได้ยากเย็นแสนเข็ญหากใจเด็ดไม่พอ เห็นทีจะลดยาก


คนอ้วนอเมริกันแบ่งได้เป็นสองกลุ่มคือ อ้วนเอวกับอ้วนสะโพก

อ้วนเอว คือพวกที่พุงโต ฝรั่งเขาเรียกว่าหุ่นแบบแอ๊ปเปิ้ล (Apple shape)

ส่วนอ้วนสะโพกเขาเรียกว่าหุ่นแบบลูกแพร์ (Pear shape)

เคยมีรายงานการวิจัยได้ข้อสรุปว่า คนที่อ้วนพุงมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหลอดเลือดหัวใจตีบ มากกว่ากลุ่มที่อ้วนสะโพก ดังนั้นใครที่รู้ตัวเองว่าอ้วนพุง ขอให้หาทางลดเสียให้ได้ ไม่ยังงั้นแล้วอาจจะเจอโรคหัวใจถามหา

ตอนนี้โปรแกรมลดความอ้วนในสหรัฐอเมริกา กำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มียาหลายชนิดนำออกสู่ตลาด ยาลดความอ้วนบางชนิดออกมาวางขายได้สักพักก็ต้องถอนออกไป เพราะพบว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างเช่น ยาเฟนเฟน มีคลินิกลดความอ้วนกลาดเกลื่อน ใช้วิธีการสารพัด ทั้งงดอาหาร ออกกำลัง พลังจิต โยคะ มังสวิรัติ ฯลฯ

มีงานวิจัยอยู่เรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นที่น่าสนใจ ให้ข้อมูลว่า "คนกินเร็วอ้วนเร็ว คนกินช้าอ้วนช้า" เรื่องของเรื่องคือ มีข้อเท็จจริงอยู่ว่าคนที่กำลังจะอ้วนหรืออ้วนอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นคนกินเร็ว กินมาก อาหารหนักไปทางไขมัน หนักแป้ง

อาหารไขมันสูงจะช่วยให้อาหารอร่อยมากขึ้น ทำให้กินได้มาก แต่มีคนจำนวนไม่น้อยที่กินไขมันแต่ไม่ยักอ้วน ขึ้นอยู่กับวิธีการกินด้วย ความหิวของคนเรา เกิดขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำลงถึงระดับหนึ่ง สมองจะสั่งงานว่า "หิว" เมื่อได้กินอาหารไปสักพัก น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นถึงระดับหนึ่ง สมองก็สั่งงานออกมาว่า "อิ่ม"

ปัญหาของความอ้วนอยู่ตรงที่ว่า สมองมักจะตอบสนองต่อการสูงขึ้นของน้ำตาลค่อนข้างช้า น้ำตาลสูงขึ้นประมาณ 15 นาที แล้วสมองเพิ่งจะสั่งการและการที่สมองสั่งการช้าอย่างนี้นี่เอง ที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยกินอาหารเกินกว่าที่ตนเองต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กินอาหารเร็ว

อาการกินเร็ว ถือช้อนไว้ตลอดเวลา อาหารอยู่ใกล้ปาก ตักโน่นตักนี่กิน เคี้ยวเร็ว กลืนเร็ว อาหารเข้าสู่ท้องไปตั้งแยะจนย่อยไม่ทัน น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ช้ากว่าความเร็วที่อาหารลงกระเพาะ สมองที่ตอบสนองช้าอยู่แล้ว กว่าสมองจะสั่งการว่าอิ่มได้ พลังงานที่ร่างกายได้รับ ก็อาจเพิ่มขึ้นไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์มากกว่าที่ร่างกายต้องการ เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความอ้วนก็ไม่หนีไปไหนหรอกครับ

คนอ้วนหรือคนที่กำลังจะอ้วน จึงมักจะเป็นคนที่กินอาหารเร็ว ได้รับอาหารเกินปกติโดยที่ตนเองไม่รู้ตัว นั่งกินข้าวอยู่กับคนอื่น ตนเองกินจานที่สองเข้าไปแล้ว หยิบกับข้าวโน่นนี่ใส่จาน เพื่อนร่วมโต๊ะที่ไม่อ้วน อาจจะยังกินจานแรกไม่เรียบร้อยเลยด้วยซ้ำ หากเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น เห็นทีต้องหาทางหยุดเสียแล้ว เพราะหากปล่อยให้อ้วน การที่จะลดให้ลงมาเหมือนเดิมนั้น ทำได้ค่อนข้างยาก ใครที่สังเกตว่าตนเองกินอาหารเร็ว กำลังจะอ้วนหรืออ้วนแล้วก็ตามที หากต้องการจะลด วิธีการที่ไม่ยากจนเกินไปนักคือ ต้องลดความเร็ว ของการกินลงให้ได้ ต้องกินอย่างมีสติให้ความเร็วของการสั่งงานของสมองสอดคล้องกับความเร็ว ที่อาหารเดินทางลงกระเพาะสักหน่อย

การกินช้า จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานพอเหมาะไปโดยอัตโนมัติ ใครที่อ้วนอยู่แล้ว หรือกำลังจะอ้วน เห็นทีต้องเริ่มฝึกการกินช้า เหมือนอย่างที่กลุ่มมาโครไบโอติก หรือชีวจิตแนะนำนั่นแหละคือ ค่อยๆ เคี้ยว อย่างเช่น มีการแนะนำให้เคี้ยวอาหารแต่ละคำสัก 50 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ไม่จำเป็นต้องนับหรอกครับ

ตักอาหารเข้าปากแล้ววางช้อนไว้ข้างจานขณะเคี้ยวอาหารทุกครั้ง จะทำให้ความเร็วในการกินลดลงไปได้เอง ค่อยๆ เคี้ยว ไม่ต้องรีบร้อน หากมีเพื่อนร่วมโต๊ะก็อาจจะคุยกับเพื่อน เพื่อละสมาธิออกจากอาหาร หากกินอาหารได้หนึ่งคำ จิบน้ำไปพลาง จะทำให้กระเพาะเต็มเร็ว ในขณะที่น้ำตาลในเลือดค่อยๆ สูงขึ้นไปได้

อย่ากินจนรู้สึกอิ่ม แต่ให้กินจนกระทั่งรู้สึกว่าไม่หิวแล้วให้หยุด เพื่อให้กระเพาะมีช่องว่างสำหรับการย่อยได้ ตำราฝรั่งสอนวิธีการกินไม่ให้อ้วน เหมือนอย่างที่ศาสดาในศาสนาอิสลามสอนไว้เหมือนกัน นั่นคือ แบ่งกระเพาะไว้สามส่วน กินอาหารหนึ่งส่วน น้ำหนึ่งส่วน และปล่อยที่ว่างไว้หนึ่งส่วน ร่างกายจะได้รับพลังงานพอเพียง ที่สำคัญก็คือ พลังงานอาจจะน้อยกว่าที่เคยได้รับสมัยกินเร็วถึงเท่าตัวก็ได้

ลองกินอาหารสักจานโดยใช้เวลาสัก 20 นาทีดูบ้าง กินเพียงให้หายหิวแล้วหยุด หากทำได้อย่างนี้ พลังงานที่ได้รับต่อวันจะลดลง ความอ้วนที่เคยสะสมไว้ จะเริ่มลดลงได้เองช้าๆ ลองดูซิครับ

 

 

(ที่มาฟิตเวย์ )

 

หาก   อ้วน แล้ว  อยากลด แบบสบายๆ

  ไม่เสียเวลา ไม่เสี่ยงสารเคมี ไม่เหนื่อย ประหยัดๆ    คลิ๊ก!!

     http://yim-health.blogspot.com

           http://submit-submit.blogspot.com

http://submit.iblog.co.th   

 

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1833 วันที่ 17 ธ.ค. 2551

พลาสติกปูโต๊ะ ผ้าปูโต๊ะกันน้ำ แบบใส

฿148 - ฿535

https://s.shopee.co.th/7V3F6KvQJG?share_channel_code=6


กินเร็วอ้วนเร็ว กินช้าอ้วนช้ากินเร็วอ้วนเร็วกินช้าอ้วนช้า

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

คนอาไร๊...หน้ายังกะผี..!!

คนอาไร๊...หน้ายังกะผี..!!


เปิดอ่าน 7,552 ครั้ง
กลิ่นปาก

กลิ่นปาก


เปิดอ่าน 7,529 ครั้ง
ทำไมต้องแต่งงาน?  "Why we wed?

ทำไมต้องแต่งงาน? "Why we wed?


เปิดอ่าน 7,552 ครั้ง
ฮามาก...ถึงมากที่สุดเลย...

ฮามาก...ถึงมากที่สุดเลย...


เปิดอ่าน 7,542 ครั้ง
ท่านทราบหรือไม่?

ท่านทราบหรือไม่?


เปิดอ่าน 7,549 ครั้ง
  1   หลง  2  ลืม   ห้ามยืมคำ "อย่า"

1 หลง 2 ลืม ห้ามยืมคำ "อย่า"


เปิดอ่าน 7,530 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

10 เคล็ดลับ เรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผล

10 เคล็ดลับ เรียนภาษาต่างประเทศให้ได้ผล

เปิดอ่าน 7,526 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
บทเรียนโปรแกรมประกอบแผนการจัดการเรียนรู้
บทเรียนโปรแกรมประกอบแผนการจัดการเรียนรู้
เปิดอ่าน 7,537 ☕ คลิกอ่านเลย

 วิธีเพิ่มIQ 6 วิธีอย่างง่าย
วิธีเพิ่มIQ 6 วิธีอย่างง่าย
เปิดอ่าน 7,548 ☕ คลิกอ่านเลย

ทำไมผู้หญิงอายุยืนกว่าผู้ชาย
ทำไมผู้หญิงอายุยืนกว่าผู้ชาย
เปิดอ่าน 7,551 ☕ คลิกอ่านเลย

ปวดท้องตรงไหนเป็นอะไรกันแน่??
ปวดท้องตรงไหนเป็นอะไรกันแน่??
เปิดอ่าน 7,585 ☕ คลิกอ่านเลย

ภาพนัวเนีย  นวลเนียน  น่ารัก
ภาพนัวเนีย นวลเนียน น่ารัก
เปิดอ่าน 7,544 ☕ คลิกอ่านเลย

ข้อคิดความเป็นคน
ข้อคิดความเป็นคน
เปิดอ่าน 7,662 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

การฝังเข็ม ดีอย่างไร
การฝังเข็ม ดีอย่างไร
เปิดอ่าน 3,590 ครั้ง

รูปแบบวิธีการสอน: การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน ปี 2562
รูปแบบวิธีการสอน: การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน ปี 2562
เปิดอ่าน 21,766 ครั้ง

ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)
ความหมายของ e-Learning (โดย รศ.ดร.ถนอมพร เลาหจรัสแสง)
เปิดอ่าน 98,148 ครั้ง

ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง
ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง
เปิดอ่าน 12,169 ครั้ง

การบริหารกล้ามเนื้อตา
การบริหารกล้ามเนื้อตา
เปิดอ่าน 18,635 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ