Advertisement
Advertisement
ได้เวลาบอกลาส้วมนั่งยองที่คนไทยหลายคนคุ้นเคยแล้ว !! เพราะวันนี้ (19 ก.พ.) คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติให้ ทุกครัวเรือนหรือประมาณ 90 เปอร์เซนต์ต้องเปลี่ยนจาก "ส้วมนั่งยอง" มาเป็น "ส้วมนั่งราบ" หรือส้วมชักโครก ภายในปี 2559
เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ที่เสนอขอความเห็นชอบแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทยระยะที่ 3 (พ.ศ. 2556 – 2559) และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแผนแม่บทพัฒนาส้วมสาธารณะไทย ระยะที่ 3 (พ.ศ. 2556 – 2559) ไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายความสำเร็จที่กำหนดไว้
นายภักดีหาญส์กล่าวว่า สาระสำคัญของเรื่อง แผนแม่บทพัฒนาสวนสาธารณะไทย ระยะที่ 3 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาส้วมครัวเรือนให้เหมาะสมในการรองรับต่อการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุให้ประเทศมีส้วมสาธารณะได้มาตรฐาน ส้วมสาธารณะระดับประเทศ หรือ HAS คือ สะอาด(Health) เพียงพอ(Accessibility) และปลอดภัย(Safety) เนื่องจากพบว่าผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะเจ็บป่วยด้วยโรคข้อเข่าเสื่อมจากการใช่ส้วมนั่งยองติดต่อกันนานหลายปี และยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะที่ถูกสุขลักษณะ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่าง ถูกหลักสุขาภิบาล
สำหรับเป้าหมายความสำคัญของแผนแม่บทนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 ข้อ คือ 1.ครัวเรือนไทยใช้ส้วมแบบ “ส้วมนั่งราบ” ร้อยละ 90 ภายในปี พ.ศ. 2559 2.สถานบริการสาธารณะ และสถานที่สาธารณะมีบริการ “ส้วมนั่งราบ” อย่างน้อย 1 ที่ร้อยละ 10 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ. 2559 3.ประเทศไทยมีส้วมสาธารณะที่สะอาด เพียงพอ ปลอดภัย ร้อยละ 90 ของกลุ่มเป้าหมายภายในปี พ.ศ. 2559 4.คนไทยมีพฤติกรรมการใช้ส้วมสาธารณะถูกสุขลักษณะ ร้อยละ 90 ของผู้ใช้บริการในปี พ.ศ. 2559 5.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการจัดการสิ่งปฏิกูลอย่างถูกหลักสุขาภิบาล ร้อยละ 50 ภายในปี พ.ศ. 2559
“ผลการดำเนินงานพัฒนาส้วมสาธารณะไทยเมื่อสิ้นปี2554 มีส้วมสาธารณะสะอาด พอเพียง ปลอดภัย เพียงร้อยละ 55.47 ไม่บรรลุตามเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้คือร้อยละ60 เพราะการพัฒนาส้วมสาธารณะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างมาก ดังนั้นการพัฒนาส้วมสาธารณะในแผนแม่บทระยะที่3 ต้องมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น และปี2558จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนก็เป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศ ดังนั้นต้องร่วมมือกันให้บริการส้วมแก่นักท่องเที่ยวเพือให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างรายได้ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ” นายภักดีหาญส์กล่าว
นายภักดีหาญส์ กล่าวว่า สำหรับกลุ่มเป้าหมายของแผ่แม่บทส้วมฉบับนี้ จะรวมทั้งส้วมครัวเรือนและส้วมสาธารณะในสถานบริการสาธารณะและสถานที่สาธารณะ 12 ประเภท ได้แก่ 1. แหล่งท่องเที่ยว 2. ร้านจำหน่ายอาหาร 3. ตลาดสด 4. สถานีขนส่งทางบกและทางอากาศ 5. สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง 6. สถานศึกษา 7. โรงพยาบาล 8. สถานที่ราชการ 9. สวนสาธารณะ 10. ศาสนสถาน 11. ส้วมสาธารณะ ริมทาง และ 12. ห้างสรรพสินค้า/ศูนย์การค้า/ดิสเคานต์สโตร์ ทั้งนี้ในส่วนของการติดตามประเมินผลนั้นสธ.จะขอครม.ตั้งคณะกรรมการส้วมสาธารณะไทย และอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพตามความเหมาะสม ที่มีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามเป้าหมาย ตามแผนฯ ประจำทุกปี ในระยะครึ่งแผนฯ และระยะสิ้นสุดของแผนฯ และรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ ในการปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผนฯ ต่อคณะกรรมการส้วมสาธารณะไทย
แหล่งข่าวจากที่ประชุมครม.เปิดเผยว่า หลายหน่วยงานเสนอความเห็นด้วยกับแผนแม่บทฉบับใหม่ อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะที่กระทรวงคมนาคมเสนอแนะให้คำนึงถึงคนพิการด้วย ส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอให้มีการจัดทำคู่มือหรือหลักเกณฑ์ในการสร้างส้วมให้ถูกสุขลักษณะและป้ายประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับวิธีใช้ส้วม ด้านสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอให้สร้างนวัตกรรมสำหรับกำจัดสิ่งปฏิกูลที่สามารถสร้างประโยชน์คืนกลับสู่ชุมชน เช่นการทำเป็นก๊าซชีวมวล
ดูท่าการเมืองจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว !!
ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556
Advertisement
|
เปิดอ่าน 9,583 ครั้ง |
เปิดอ่าน 8,888 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,760 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,854 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,822 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,631 ครั้ง |
เปิดอ่าน 23,813 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,222 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,902 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,528 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,578 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,875 ครั้ง |
เปิดอ่าน 27,986 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,802 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,718 ครั้ง | |
|

เปิดอ่าน 14,043 ☕ คลิกอ่านเลย |

เปิดอ่าน 10,516 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 9,935 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 9,726 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 13,129 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 10,759 ☕ คลิกอ่านเลย | 
เปิดอ่าน 14,986 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ 
เปิดอ่าน 441,051 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 9,836 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 5,551 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 10,469 ครั้ง | 
เปิดอ่าน 18,105 ครั้ง |
|
|