ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


Advertisement

ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เผยแพร่ผลงานรายงานผลการทักษะการผันวรรณยุกต์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ 1 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จ. อ


เรื่องราวจากสมาชิก

8,315

views
Advertisement

เผยแพร่ผลงานรายงานผลการทักษะการผันวรรณยุกต์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ 1 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จ. อ

รายงานผลการวิจัย เรื่อง ผลการพัฒนาทักษะการผันวรรณยุกต์
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ   อำเภอเมือง   จังหวัดอุตรดิตถ์   ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการผันวรรณยุกต์
โดย   นางอัญชลี    มีทรัพย์
ตำแหน่ง ครูชำนาญการ
............................................................................................................................................................
 
ที่มาและความสำคัญ
 
จากการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การใช้ภาษาไทยในปัจจุบันพบว่า ภาษาไทยกำลังถูกลืมไปในบางส่วนโดยเฉพาะวัฒนธรรมการใช้ภาษาที่ดีงามสำเนียง เสียงพูดโดยเฉพาะเสียงวรรณยุกต์ พยัญชนะบางตัว เช่น ช ท ถ ส ที่มีการออกเสียงกันเพี้ยนไป สำนักราชบัณฑิตยสถาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันเด็กไทยผันวรรณยุกต์ไม่ได้ ย่อความไม่ได้   จึงได้มีการเร่งสร้างแบบทดสอบวัดความรู้ครู นักเรียนเพื่อประเมินตัวเอง เน้นปลูกฝังตั้งแต่ 3 ขวบ ด้วยการ์ตูน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนองความห่วงใยภาษาไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่ทรงให้พระบรมราโชวาทแก่เอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทย ที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเกี่ยวกับคนไทยไม่เห็นความสำคัญของภาษาไทย ทรงเสียดายที่คนไทยเห็นภาษาไทยเป็นสิ่งล้าสมัยและคนไทยแสดงพฤติกรรมเป็นฝรั่ง จีน ญี่ปุ่น ทำให้ชาวต่างชาติมองคนไทยเป็นสัตว์ประหลาดนั้นในโอกาสเดียวกันนี้เอง นางจินตนา พันธุฟัก เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสห่วงภาษาไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะการกระตุ้นให้คนไทยเห็นความสำคัญของภาษาไทย จึงทำให้รัฐบาลจัดให้การรณรงค์ความสำคัญของภาษาไทยเป็นโครงการระดับชาติ เพราะปัจจุบันปัญหาการใช้ภาษาไทยที่พบในเด็กไทย คือ ผันเสียงวรรณยุกต์ สามัญ เอก โท ตรี จัตวา ไม่ได้ สะกดคำผิดๆ ถูกๆ ที่สำคัญเด็กทุกวันนี้ จับประเด็นสำคัญ และย่อความไม่เป็น  ในฐานะผู้วิจัยเป็นครูผู้สอนวิชาภาษาไทยมาเป็นเวลานานกว่าสิบปี พบว่าปัญหาในการเรียนรู้หลักภาษาไทย การอ่าน การเขียนสะกดคำที่สำคัญและยุ่งยากสำหรับเด็กนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 คือเรื่องการผันเสียงวรรณยุกต์ในการอ่านและเขียนสะกดคำ ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้สร้างแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ขึ้น โดยยึดแนวคิดที่สำคัญว่าการให้โอกาสให้เด็กได้ฝึกฝนในเรื่องของทักษะบ่อย ๆ ย่อมทำให้เกิดความชำนาญและเกิดการเรียนรู้ที่คงทน
 
 
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ภาษาไทย ด้านการผันวรรณยุกต์ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการผันสียงวรรณยุกต์
 
 
ประชากร
กลุ่มประชากร ได้แก่    นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1   โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ   อำเภอเมือง   จังหวัดอุตรดิตถ์   จำนวน  204    คน
 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/ 7 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ   อำเภอเมือง   จังหวัดอุตรดิตถ์   จำนวน 29  คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง
 
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย
1.แบบฝึกเสริมทักษะการผันเสียงวรรณยุกต์
2.แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ดังนี้
 
ขั้นตอนการดำเนินการวิจัย
1 ทดสอบก่อนการเรียนรู้ โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้      
 2 ดำเนินการจัดการเรียนรู้ตามลำดับที่เขียนไว้แผนการจัดการเรียนรู้ และให้นักเรียนทำแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ ตามที่ระบุไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้
3. ทดสอบหลังเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังการเรียนรู้ ซึ่งเป็นแบบทดสอบชุดเดียวกับแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้   ใช้เวลา
60 นาที    โดยดำเนินการหลังจากได้จัดการเรียนการสอน
4. เก็บรวบรวมข้อมูลและบันทึกผลคะแนนที่ได้จากการทดสอบ
 
 การวิเคราะห์ข้อมูล
ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้
1. การหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ โดยคำนวณจากสูตร E1 / E2
2. การวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องการผันวรรณยุกต์ โดยแจกแจงคะแนนของนักเรียนเป็นรายคนลงในตารางบันทึกผล แล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูล พร้อมทั้งเปรียบเทียบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการเรียนรู้ ด้วย
t – test เพื่อศึกษาความสามารถทางการเรียนรู้เรื่องการผันวรรณยุกต์ในภาพรวม
 
 
 
สรุปผลการดำเนินงาน
การวิจัย เรื่อง ผลการพัฒนาทักษะการผันวรรณยุกต์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1   โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ  อำเภอเมือง   จังหวัดอุตรดิตถ์   ด้วยแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์     
มีการดำเนินการวิจัยซึ่ง สามารถสรุปผลการดำเนินงาน ดังนี้
                   1.ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์เท่ากับ 87.72 /83.27    ซึ่งผลการดำเนินงานสูงกว่าสมมติฐานที่ผู้วิจัยตั้งไว้ที่ระดับ 87.72 /83.27
                2. คะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนวิเคราะห์ด้วย t-test ปรากฏค่า t-test = 32.29  ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงกล่าวได้ว่า คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมีความแตกต่างกัน นั่นคือ คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แสดงให้เห็นว่าแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ มีประสิทธิภาพ สามารถพัฒนาและแก่ไขปัญหาด้านการผันวรรณยุกต์ของนักเรียนได้จริง
 
อภิปรายผล
            จากผลการดำเนินงานที่ปรากฏ ผู้วิจัยสามารถอภิปรายผลได้ตามประเด็นต่อไปนี้
                1. จากผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ และพบว่าแบบฝึกดังกล่าวมีประสิทธิภาพที่ระดับ 87.72 /83.27 ซึ่งสูงกว่าสมมติฐานที่ตั้งไว้ ผู้วิจัยมีความคิดเห็นว่า การนำแนวคิดทฤษฎีทางจิตวิทยา และหลักการสร้างแบบฝึกที่ดีมาใช้ในการสร้างแบบฝึกเป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสอดคล้องกับความคิดเห็นของ  สุจริต   เพียรชอบและสายใจ อินทรัมพรรย์ ( อ้างอิงจาก ชัยวัฒน์   สุทธิรัตน์ , 2550 : 157 ) ที่กล่าวว่าการสร้างแบบฝึกต้องยึดตามหลักทฤษฎีการเรียนรู้ทางจิตวิทยาดังนี้ 1. กฎการเรียนรู้ของธอร์นไดค์   เกี่ยวกับกฎแห่งการฝึกหัด    คือสิ่งใดที่ได้ทำบ่อย ๆ จะทำได้ดี แต่ถ้านาน ๆ ทำทีก็จะลืม   2. ความแตกต่างระหว่างบุคคลคือ ต้องไม่ยากไม่ง่ายเกินไป 3. การจูงใจผู้เรียนทำแบบฝึกจากง่ายไปสู่ยาก และ 4. ใช้แบบฝึกสั้น ๆ เพื่อไม่ให้เบื่อหน่าย   นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแนวคิดของ วรสุดา   บุญยไวโรจน์ ( อ้างอิงจาก   สุนันทา สุนทรประเสริฐ , 2543 : 57-58 ) ที่ได้แนะนำให้ผู้สร้างแบบฝึกยึดลักษณะการสร้างแบบฝึกที่ดี กล่าวคือ แบบฝึกที่ดี   ควรมีความชัดเจนทั้งคำสั่งและวิธีการ   คำสั่งหรือตัวอย่าง มีความเหมาะสมกับผู้ใช้   ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเองเมื่อต้องการ   และมีกิจกรรมหลายรูปแบบ  เพื่อเร้าให้นักเรียนเกิดความสนใจ  และไม่เบื่อหน่ายจะกระทำ   และเพื่อฝึกทักษะใดทักษะหนึ่งจนเกิดความชำนาญ ตลอดจนควรตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียนแต่ละคน เช่น ความแตกต่างด้านความต้องการ ความสนใจ    ความพร้อม ระดับสติปัญญา และประสบการณ์ ฉะนั้นการจัดทำแบบฝึกควรจัดทำให้มากพอ และมีทุกระดับ ตั้งแต่ ง่าย   ปานกลาง และยาก เพื่อว่าทั้งเด็กเก่ง ปานกลาง และอ่อน สามารถเลือกทำได้ตามความสามารถ และเพื่อให้นักเรียนทุกคนประสบความสำเร็จในการทำแบบฝึก   ดังนั้นผู้วิจัยจึงสรุปว่า   แบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ มีลักษณะของแบบฝึกที่ดี คือ
                1. ยึดหลักจิตวิทยาเป็นพื้นฐาน เช่น   ด้านความแตกต่างระหว่างบุคคล     กฏแห่งกระทำซ้ำ   
                2. มีความหมายต่อชีวิต    และตรงจุดประสงค์
                3. ปลุกเร้าความสนใจ มีความหลากหลาย
                4. เหมาะสมกับวัย
                5. ผู้เรียนสามารถศึกษาได้ด้วยตนเอง
2. จากข้อมูลด้านคะแนนการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน แล้วทำการทดสอบสมมติฐานวิเคราะห์ด้วย t-test   ปรากฏค่า t-test = 32.29  ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ซึ่งกล่าวได้ว่า คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนมีความแตกต่างกัน   นั่นคือ คะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แสดงให้เห็นว่าแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ มีประสิทธิภาพ      สามารถพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านการผันวรรณยุกต์ของนักเรียนได้จริง   ทั้งนี้ผู้วิจัยมีความคิดเห็นว่าการใช้แบบฝึกเพื่อพัฒนาการเรียนรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งหลังที่ได้เรียนรู้เรื่องนั้น ๆ จบไปแล้ว ทั้งนี้เพราะการให้นักเรียนได้ฝึกย้ำคิดย้ำทำ เป็นการสร้างความเชี่ยวชาญประการหนึ่ง   ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดและผลการวิจัยของนักการศึกษาหลายท่านที่ได้ใช้แบบฝึกสำหรับพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาด้านการเรียนการสอนเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นอานงค์ ใจรังกา (2547 : 58 ) สรุปผลการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6   โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำ   ร ล   ว   ไว้ดังนี้ หลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำ   ร ล   ว   นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางด้านการอ่านไม่ต่ำว่าร้อยละ 78.86 และสูงขึ้นกว่าก่อนการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำ   ร ล   ว อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01    ประสิทธิภาพของแบบฝึกที่ได้จากการวิจัยเท่ากับ 87.71 / 87.49   ซึ่งสูงกว่าสมมติฐานของงงานวิจัยที่ตั้งไว้ จุฑามาศ    ศีวิลัย ( 2549 : 56 ) ศึกษาเรื่อง การพัฒนาแบบทักษะการอ่านออกเสียงคำควบกล้ำ ร ล ว   โดยใช้ภาพประกอบสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 พบว่านักเรียนสามารถพัฒนาการอ่านสูงขั้นร้อยละ 70 และมีความคงทนต่อการเรียนรู้ภาษาไทยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60  สอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ นอกจากนี้นักเรียนยังมีความพึงพอใจต่อกระบวนการจัดการเรียนรู้ อยู่ในระดับดี  
ข้อเสนอแนะ
                หลังเสร็จสิ้นการดำเนินงานวิจัย ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมดังนี้
                1. ในการนำแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ไปใช้กับนักเรียนนั้นครูผู้สอนควรศึกษาลำดับขั้นตอนและคู่มือการใช้ให้เข้าใจ
                2. ในกรณีที่ครูแบบฝึกทักษะการผันวรรณยุกต์ไปใช้กับนักเรียน ครูผู้ควรควรจัดเตรียมสื่อการเรียนการสอนที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ให้พร้อม   อีกทั้งควรให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม
                3. การจัดการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกนั้น ครูควรให้ความสนใจนักเรียนอย่างใกล้ชิด   และวางบทบาทของตนเองเป็นผู้แนะนำแก่นักเรียน ไม่ใช่ผู้บอก   รวมทั้งครูควรคำนึงว่าการทำกิจกรรมในแบบฝึกไม่ใช่การทดสอบ   ดังนั้นเมื่อนักเรียนยังไม่บรรลุเป้าหมายของการทำแบบฝึก   ครูผู้สอนอาจช่วยเหลือเป็นรายบุคคล และย้ำคิดย้ำทำกิจกรรมในแบบฝึกจนกว่านักเรียนจะเกิดความรู้ความชำนาญในที่สุด
               
 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 7052 วันที่ 30 ส.ค. 2552

ชุดไทยจิตรลดา โทนสีดำ ตัดเย็บจากผ้าไหมแพรทิพย์ งานละเอียดปราณีต แพทเทิร์นเข้ารูป สวยหรู ทันสมัย #ภาพถ่ายจากสินค้าจริง

฿1,790

https://s.shopee.co.th/8ANnSpUT4P?share_channel_code=6


เผยแพร่ผลงานรายงานผลการทักษะการผันวรรณยุกต์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ 1 โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐ จ. อเผยแพร่ผลงานรายงานผลการทักษะการผันวรรณยุกต์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่1โรงเรียนเทศบาลท่าอิฐจ.

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

 รู้ไหม..? เกิดมาทำไม....?

รู้ไหม..? เกิดมาทำไม....?


เปิดอ่าน 8,295 ครั้ง
เปิดภาพลับ..คนดัง

เปิดภาพลับ..คนดัง


เปิดอ่าน 8,301 ครั้ง
ฉลาด....ไม่ถูกเรื่อง?

ฉลาด....ไม่ถูกเรื่อง?


เปิดอ่าน 8,299 ครั้ง
คลายเครียด....ตามเดือนเกิด

คลายเครียด....ตามเดือนเกิด


เปิดอ่าน 8,298 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

เรายิ้มรับความเศร้าได้

เรายิ้มรับความเศร้าได้

เปิดอ่าน 8,302 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
แบบสำรวจบุคลิกนิสัยใจคอ
แบบสำรวจบุคลิกนิสัยใจคอ
เปิดอ่าน 8,288 ☕ คลิกอ่านเลย

7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
7 วิธีทำให้หน้าเด็ก
เปิดอ่าน 8,298 ☕ คลิกอ่านเลย

ทายนิสัยผู้ให้ จากขวัญที่ได้รับ
ทายนิสัยผู้ให้ จากขวัญที่ได้รับ
เปิดอ่าน 8,294 ☕ คลิกอ่านเลย

หัวบุก...... สมุนไพร....ลดความอ้วน
หัวบุก...... สมุนไพร....ลดความอ้วน
เปิดอ่าน 8,303 ☕ คลิกอ่านเลย

6 P..เพื่อความสำเร็จในการทำงาน
6 P..เพื่อความสำเร็จในการทำงาน
เปิดอ่าน 8,314 ☕ คลิกอ่านเลย

 ไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เปิดอ่าน 8,322 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

 หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50
หลักเกณฑ์การย้าย ผอ.ร.ร.50
เปิดอ่าน 21,245 ครั้ง

ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548
ระบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2548
เปิดอ่าน 34,853 ครั้ง

เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย
เงินเดือน-ค่าตอบแทน ของอาชีพต่างๆ ในประเทศไทย
เปิดอ่าน 75,902 ครั้ง

ประเพณีขึ้นโขนชิงธง"คลองหัววัง-พนังตัก" เมืองชุมพร
ประเพณีขึ้นโขนชิงธง"คลองหัววัง-พนังตัก" เมืองชุมพร
เปิดอ่าน 19,176 ครั้ง

4 ข้อควรทำคลายบาดเจ็บจากกีฬา
4 ข้อควรทำคลายบาดเจ็บจากกีฬา
เปิดอ่าน 25,994 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ